29.12.50

ไม่ยุติธรรม??

เวลาที่คิดๆ ไว้ในใจ ว่าอยากเขียน blog เรื่องนั้น เรื่องนี้
ทำไมตอนที่มาเขียนจริงๆ
หัวข้อที่ใช้
มันกลับกลายเป็นหัวข้อที่คิดได้ตอนกดแป้นพิมพ์ทั้งนั้นเลย

...ตลกดี...

เคยรู้สึกรึเปล่าว่า หลายครั้ง ตัวเองถูกกระทำอย่างไม่ยุติธรรม
ทั้งจากคนรอบข้าง จากเหตุการณ์ต่างๆ หรือจากอะไรก็ไม่รู้ หาสาเหตุไม่ได้

ความรู้สึกคือ ไม่ยุติธรรมเลย

...ตลกดี...

มีบางวูบที่รู้สึกแบบนั้น
แล้วก็อยากจะตบหัวตัวเอง

ปีใหม่นี้มีอยู่ 2 Trip ที่ได้รับเชิญ
Trip ประจำปีของที่บ้าน สุดยอดปรารถนา น่าไปที่สุด กินและนอน
Trip ของบอร์ด Gsus7 เที่ยวสิ้นปีเพื่อคุยเรื่องทิศทางปีต่อไป อันนี้น่าสนุก

อยากไปทั้ง 2 Trip
แต่ ณ วินาทีสุดท้ายก็ตัดสินใจไปกับที่บ้าน เพื่อลดการขัดแย้งในครอบครัว

อย่างไรก็ตาม เนื่องจากยังไม่ได้ประกาศการตัดสินใจ
ก็เลยโดนไปซะ 1 ดอกใหญ่จากหม่ามี๊ที่รัก

รู้สึกหนึ่งแวบว่า...ไม่ยุติธรรมเลย
ทำไมถึงไม่เข้าใจกันบ้าง ไม่รู้จักลูกสาวคนนี้เลยรึไง

-
-
-
-
-
-
-
-
-

ตอนนี้อยากตบหัวตัวเอง
การที่มีคนอยากให้เราไปเที่ยวด้วย อยากใช้เวลากับเรา
มันเป็นสิ่งที่ดีมากๆ เลย ไม่ใช่หรือไง (ฟะ)
ทำมาเป็นเล่นตัว... ขอความเห็นใจ

.....

เป็นแบบนี้มาตลอด
พระเจ้าดูแลและให้ความอบอุ่นตั้งแต่ยังไม่รู้จักพระเจ้า
++ มีครอบครัวที่ดีและยินดีเป็นที่พึ่งเสมอ
++ มีเพื่อนเก่าที่ยินดีต้อนรับในทุกกรณี
++ และมีเพื่อนใหม่ในทุกทีที่ไป

แต่ชอบเล่นตัว... ลังเล อยากไปมันซะทุกที่ที่ถูกชวน
เพราะรู้สึกว่าตัวเองสำคัญ
เฮ้อออออ
โตแล้วยังไม่เปลี่ยนนิสัยอีก

-
-
-

มนุษย์มีคุณค่าและมีความสำคัญตลอดเวลาอยู่แล้ว
เพราะพระเจ้าให้ความสำคัญกับเราเสมอ

แต่คุณจะสำคัญต่อคนอื่นที่สุด
ก็ต่อเมื่อคุณอยู่ถูกที่ถูกเวลา

มนุษย์หนึ่งคน จะแยกร่างไปอยู่ทุกที่ที่อยากไปในเวลาเดียวกันได้ไหมล่ะ
ถ้าทำไม่ได้
แล้วอยู่ตรงไหนมีประโยชน์ที่สุดล่ะ

++++++++++++++

ที่จริงมันก็เป็นคำตอบของทุกอย่างล่ะนะ
ไอ้ที่มนุษย์ชอบบ่นว่า
...ไม่ยุติธรรมเลย...

มันคืออะไรกันแน่

สิ่งมากมายที่คุณมีทั้งหมด เทียบกับปัญหาเล็กๆ ที่คุณเจอ
คุณว่ามันไม่ยุติธรรมไหมล่ะ

อย่างน้อยที่สุด
ไอ้ที่คุณอยากให้มันเกิดความยุติธรรมเนี่ย
มันดีที่สุดกับคนอื่นไหมล่ะ

++++++++++++

ค้นพบสัจธรรมอีกหนึ่งอย่าง

ความเด็ดขาดเป็นสิ่งสำคัญในการตัดสินใจหลายอย่าง
แต่ก่อนที่จะเด็ดขาดต้องรีบคิด ว่าอะไรมันดีที่สุด
และก่อนที่จะคิดว่าอะไรดีที่สุด

เอาความเห็นแก่ตัวของตัวเองออกไปก่อน

เพราะไอ้คำว่า ...ไม่ยุติธรรมเลย...
มัน focus ที่ความต้องการของตัวเองทั้งนั้น

++++++++++++++

แม่จ๋า
ขอโทษน้า

28.12.50

ฟ้า - - - - - - -

ฟ้า ก็ยังคงเป็นฟ้า
อาจมีลมมีฝนและเปลี่ยนสีไป
หมอกที่มาบางครั้งอาจดูมากไป
แค่เพียงเธอให้เวลาผ่าน
ฟ้าจะเป็นเหมือนเดิม


...นอนไม่หลับ...
มันโหวงๆ ยังไงไม่รู้ค่ะพระเจ้า
เป็นห่วงคนบางคน
ไม่รู้จะทำยังไงดี
ฝากเขาไว้กับพระองค์นะคะ

27.12.50

-- M e R R y C h R i S t m A S --

กว่าจะได้เขียนเมอร์รี่คริสตมาส
ก็ปาเข้าไปวันที่ 27 ธันวาคม

ขอความสุขสวัสดี จงมีแต่คนทั้งปวง

เป็นคริสตมาสที่เหน็ดเหนื่อยเหลือหลาย
นอนตายไร้เรี่ยวแรงติดกันมา 3 คืนแล้ว

แต่ก็เป็นคริสตมาสที่เต็มไปด้วยความสุข ความสนุกสนาน และความชื่นชมยินดี
(รั่วมากกับการไปแคลอริ่งและ Party)
เป็นคริสตมาสที่รู้สึกเหมือนอยู่ถูกที่ถูกทางถูกเวลายังไงก็ไม่รู้
(แคลอริ่งเลิกเที่ยงคืน ที่บ้านพี่หงส์ และข้าวมันไก่ บัวลอย โค้ก ข้าวเหนียวเปียก ที่กินทั้งคืนก็ไม่หมด)

คริสตมาสปีนี้ ขอยกให้เป็นคริสตมาสแห่งการเสียสละ
คืนคริสตมาสอีฟ หมี่นอนตี 4 ครึ่ง ตัดต่องานที่ใช้ในวันรุ่งขึ้น
อีฟและคนอีกมากมายต้องตื่นตี 5 เตรียมตัวไปร้องเพลงให้สื่อมวลชน 5 แห่ง (และอีฟขึ้นร้องเพลงอีก 3 เวที)
พี่อีกหนึ่งคน นอนตี 1 ตื่นตี 4 เพื่อรับโทรศัพท์คนจนถึง 8 โมงเช้า
และคนอีกหนึ่งกลุ่ม ช่วยงานบางอย่างอยู่ 2-3 คืน แทบไม่ได้พักผ่อน

ตลอดวันคริสตมาส หลายคนเตรียมบ้าน จัดงานคริสตมาสให้คนอีกหลายคน
และหลายคนก็ไปทำงาน เป็นเกลือและแสงสว่าง ให้กับหลายที่

เหมือนพระเยซูเข้าไปทุกที มีชีวิตอยู่เพื่อการเป็นพระพร
เกิดมาเพื่อการเสียสละ...

ดีใจจัง

+++++++

มีโอกาสแบ่งปันความรู้สึกให้คนรอบข้างฟัง...
สิ่งที่อยากขอบคุณพระเจ้าตลอดหนึ่งปีที่ผ่านมา
เลือกได้แค่ 3 ข้อ
... 3 ข้อเองเหรอ
อยากขอบคุณเป็นร้อยข้อเลยนะ

1.ขอบคุณสำหรับเรื่องรถคว่ำ
-- ทำให้เรียนรู้จักความห่วงใยและการดูแลของแม่
-- ทำให้เรียนรู้ว่า อย่าคิดว่าตัวเองเก่ง อย่าประมาท
-- ทำให้เรียนรู้ในการขอบพระคุณพระเจ้าทุกกรณี

2.ขอบคุณที่พระเจ้าสอนเรื่องความเชื่อใจ
-- ได้เรียนรู้จักที่จะเชื่อใจคน ไว้วางใจคน เชื่อในส่วนดีของคน หวังใจในคน
-- ถ้าเขาเป็นคนของพระเจ้า พระเจ้าจะรองรับสิ่งดีในชีวิตของเขา
-- เป็นเรื่องที่ลึกซึ้งมาก ขอบคุณพระเจ้าที่สอนหมี่อย่างจริงจังและชัดเจนค่ะ

3.ขอบคุณสำหรับสันติสุขในชีวิต
-- กราฟวัดระดับสันติสุขเริ่มสูงขึ้นแบบมีเสถียรภาพ
-- กราฟอาจจะมีลงบ้างเป็นครั้งคราว (แต่เมื่อก่อน มันขึ้นเป็นครั้งคราวน่ะ แย่กว่า)
-- ทุกเหตุการณ์ในปีที่ผ่านมา สอนให้รู้ว่า
สันติสุขจากพระเจ้าเป็นสิ่งที่แตกต่าง ต้องรักษา ต้องแสวงหา และมีคุณค่ามากๆ


มีอีก เยอะ เยอะ เยอะ เยอะ ที่อยากขอบคุณพระเจ้า
-- ความรักแบบอบอุ่น (นั่นแหละ อบอุ่นมาก)
-- คำว่าครอบครัว (แม่ พ่อ น้องชาย น้องสาว ญาติพี่น้องมากมาย และการแต่งงาน)
-- การร้องไห้ที่ไม่สามารถห้ามน้ำตาได้ (เกิดมาไม่เคยเป็นเลย)
-- คนรอบข้างที่เข้าใจกันและคุยกันรู้เรื่อง (รั่วๆ คล้ายๆ กัน)
-- การทรงนำในการตัดสินใจ (นำแบบก้าวต่อก้าว)
-- เสรีภาพในการเดินกับพระเจ้า (กฏเกณฑ์ ไม่สำคัญเท่าความรักพระเจ้า จำไว้)
-- เรียนรู้จักการดูแลในเวลา บ่อจี๊ (อดเป็นอด)
-- ความสำคัญของการดูแลสุขภาพ (มีคนบอกว่า "ถ้าดูดีๆ จะเห็นว่าโทรมมาก" T_T)
-- การวางตัวที่เหมาะสม (โตซะทีเหอะ)
-- การขยายศักยภาพ (ใครจะเชื่อว่าตัวเองทำอะไรได้มากมายขนาดนี้)
-- การอัศจรรย์ผ่านวิถีชีวิตการทำงานแต่ละวัน แต่ละวัน
-- อีฟ นัทสุดา และทุมพร (เพื่อนรักและลูกแกะ)

เหย เยอะมากเหอะ เยอะมาก เยอะมากมาก
ขอบคุณพระเจ้าค่ะ
ยังไม่หมดนะเนี่ย
ขอบคุณถึงพรุ่งนี้ก็ยังไม่พอเลยมั้ง

22.12.50

มนุษย์เอ๋ย...

เจ้าหมี่เอ๋ย...
พระองค์ทรงสำแดงแก้เจ้าแล้วว่าอะไรดี
และพระเจ้าทรงมีพระประสงค์อะไรจากเจ้า
นอกจากให้กระทำความยุติธรรม และรักสัจกรุณา
และดำเนินชีวิตด้วยความถ่อมใจไปกับพระเจ้าของเจ้า


ฟังแล้วดูเหมือนง่ายใช่ไหมล่ะ
คนที่พระเจ้าพอพระทัย ไม่ใช่คนที่เก่ง
ทำงานได้แปดอย่างในเวลาเดียวกัน

-- ดำเนินชีวิตไปด้วยความถ่อมใจไปกับพระเจ้าของเจ้า--
ได้ยินป่าว เจ้าหมี่เอ๋ย

จำเอาไว้เลย
งานทุกอย่างที่ทำ มีพระเจ้าอยู่ด้วยทั้งนั้นแหละ
เพราะฉะนั้น มันจะออกมาดีไม่ดียังไง
ก็เต็มที่แล้ว จะกลัวทำไมเล่า
ไม่ได้ทำเองซะหน่อย
เอ๊อ จะเครียดไปไหน


--- ขอบคุณที่อ่านเรื่องราวในหัวของหมี่จนจบค่ะ ---

ขอบคุณพระเจ้านะคะสำหรับ มีคาห์ 6:8

19.12.50

ปลาที่ว่ายในสนามฟุตบอล <>--<

เมื่อเช้าได้อ่านหนังสือของ คุณวินทร์ เลียววารินทร์
ที่มีชื่อว่า -- ปลาที่ว่ายน้ำในสนามฟุตบอล --
ที่จริงเห็นมันวางไว้ที่บ้านตั้งนานแล้ว กะจะอ่านมาหลายที (เพราะเชื่อฝีมือนักเขียนคนนี้มานาน)
แต่พอจะหยิบอ่าน ก็แอบมีความรู้สึกว่า มันจะเป็นหนังสือที่เครียดหรือน่าเบื่อไหมน้า

ช่วงนี้สมองไม่ค่อยสงบสุข ไม่ฟิตก็ซึมไปเลย
แถมมีอาการปวดหัว กิ๊ดๆ อย่างไร้สาเหตุอยู่บ่อยๆ
ตอนนี้ก็ปวดอยู่มากอะนะ -_-"

ไม่บ่นละดีกว่า กลับมาพูดถึงหนังสือต่อ...

ใครจะรู้ว่าหนังสือเล่มนี้ (ชื่อแปลกๆ แบบนี้) ตั้งคำถามเกี่ยวกับโลกใบนี้อย่างเมามัน สนุกสนาน
อ่านแล้วตื่นเต้น เพราะมีข้อมูลใหม่ๆ อยู่เต็มไปหมด
(ถ้าไม่ได้มั่นใจเกี่ยวกับความจริงของพระเจ้า ก็อาจจะเชื่อและหวั่นไหวหัวใจ งุนงงตามไปได้)

+++++++

บางทีข้อมูลที่มันอัดแน่นอยู่เต็มหัว
ก็ไม่ได้ช่วยให้การดำเนินชีวิตมันง่ายขึ้นกว่าเดิมสักเท่าไหร่
การเป็นตัวของตัวเอง อาจไม่ได้หมายความถึงการตามใจตัวเอง
แต่อาจหมายถึงการเอาอะไรๆ ออกไปจากชีวิต เพื่อที่จะเรียนรู้สิ่งที่อยู่ในตัวเองให้มากขึ้น
และเดินต่อไปด้วยสิ่งนั้น ++ ด้วยความมั่นใจ

ใกล้จะสิ้นปีแล้ว...
ปีที่ได้รู้จักตัวเองมากอย่างไม่น่าเชื่อ
ปีที่เปลี่ยนแปลงเส้นทางชีวิตไปทางที่ควรไป
ปีที่รู้สึกว่าตัวเองได้พัฒนาในหลายด้านมากขึ้นมากกกกกกกกก

โดยเฉพาะเรื่องการคิด
แต่อีกหนึ่งสิ่งที่ต้องพัฒนาในปีต่อไป
คงเป็นการเอาอะไรๆ ออกไปจากหัวในเวลาที่ควร...

การเป็นตัวของตัวเอง โดยรู้จักพระเจ้าที่อยู่ข้างในตัวเองเนี่ย
คงทำให้เรื่องที่อยากพัฒนาในปีต่อไป
สามารถทำได้ง่ายขึ้น

ต้องเป็นอย่างนั้นแน่ๆ
^_^

(สามวันที่ผ่านมา มีทั้งอารมณ์ -_-" T_T >_< และ ^_^ )

18.12.50

กลับมาอย่างเต็มภาคภูมิ

--- นึกว่าจะต้องสมัคร blog ใหม่ซะแล้ว ---
ขอบคุณพระเจ้า
ไม่ได้เขียน blog แล้วเหมือนโหมด Emotion ไม่ค่อยถูกควบคุมอย่างมีระบบ
(เว่อร์ไหม)

ใครๆ ที่ติดตามอ่าน Emotional mode ของหมี่มาบ้าง
ก็สามารถกลับมาอ่านต่อได้นะคะ

การใช้สมองและความคิดเป็นงานที่ยาก
แต่จะว่าไป ในทุกวัน เราก็คิดกันเป็นปกติอยู่แล้ว
คิดเรื่องนั้น คิดเรื่องนี้ มีสาระบ้าง ไม่มีสาระบ้าง
คิดเพ้อฝัน ไม่มีทางเป็นจริงบ้าง

ช่วงที่ผ่านมา ได้เรียนรู้อย่างหนึ่งว่า
การคิด เพื่อตอบโจทย์และข้อจำกัดทุกอย่างอย่างดีที่สุด
เป็นเรื่องยาก
ยากกกกกกกกกก
ยากมากกกกกกกก
อ๊ากกกกกกกกกกกกกก

คือมันต้องหาคำตอบที่ดีที่สุด (คำนี้อีกแล้ว) ของทุกข้อจำกัด
ต้องหาวิธีการทุกทางที่จะหาได้
ต้องหาความสร้างสรรค์ที่ไม่เหมือนที่คนอื่นทำมาแล้ว
ต้องหาทุกความเป็นไปได้บนโลกใบนี้

อะไรก็ไม่รู้
มึน
ยิ่งเยอะก็ยิ่งมึนค่ะ

คงต้องไปพักแล้วล่ะ
(ที่ไหนได้ ตั้งใจจะดูรายการโทรทัศน์และเขียนสคริปต์ให้เสร็จภายในคืนนี้)

ขอบคุณพระเจ้า
ความคิดเป็นเรื่องที่ต้องจัดระบบนะนี่นะ

update!!!!

ตอนนี้โพสได้หรือยังเนี่ยยยย
อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกก

12.11.50

back to real world!!

4 วันกับการพักผ่อนระดับชาติ
ถึงจะไม่สามารถทำให้ความเหนื่อยล้าของร่างกายที่สะสมมากว่า 4 เดือน
หายไปอย่างปลิดทิ้งได้ ---

อย่างน้อย ก็ทำให้จิตใจสดชื่นขึ้น
มีแรงบันดาลใจใหม่ๆ
เปิดหูเปิดตา เปิดโลกภายนอกที่สดใสและคึกคัก
วู้วววว
มีความสุข ---

พระเจ้าสร้างโลก 6 วัน
และมีหนึ่งวันที่หยุดพักการงานทุกอย่าง...

แต่ว่า... พระเจ้าคงไม่ได้สร้างโลกด้วยความเครียด
ไม่ได้สร้างโลกด้วยอาการหน้านิ่วคิ้วขมวด (ใช่ไหมคะพระองค์??)
ระหว่างสร้างไป พระองค์ก็คงมีความสนุกสนานที่ได้คิดสร้างสรรค์ ได้วางแผนงาน ได้จัดการโครงสร้างต่างๆ
และได้ลงมือลงแรงทำให้เกิดสิ่งนั้นสิ่งนี้ขึ้นมาเรื่อยๆ

ไปทะเล 2 วันเต็ม
นับชั่วโมงที่นอนหลับ ไม่น่าจะต่ำกว่า 15 ชม. มั้ง
คุ้มมาก ปกตินอนวันละไม่ถึง 6 ชม.
นั่งสูดอากาศริมทะเลอีกกว่า 6 ชม.
นั่งกินข้าว ทำกิจกรรม ใต้ท้องฟ้ากว้างๆ มีแสงดาวจางๆ อากาศหนาวเล็กๆ อีกประมาณ 4 ชม.

ลืมไปแล้วว่าความวุ่นวายในการงานมันเป็นยังไง
(แต่ระหว่างนั้น ก็ยังมีคืนที่หลับฝันถึงงานอยู่ดี)

เท่านั้นยังไม่พอ
ต่อด้วยความสนุกสนานและคึกคัก ตึ๊กตั๊ก ในคอนเสิร์ต FAT RADIO
กระโดดและเดินกันเหน็ดเหนื่อยเมื่อยล้า
เหมือนกลับไปเป็นเด็กอายุ 18
(ฟังแต่เพลงเก่าๆ ร้องตามได้อยู่ไม่กี่เพลง)
คืนวันเสาร์และคืนวันอาทิตย์
งานนี้ทำให้หลายคนเกิดแรงบันดาลใจอย่างไม่น่าเชื่อ

+++ กลับมาสู่โลกใบเดิม +++
แต่ความคิดใหม่
เรี่ยวแรงใหม่
ทัศนคติใหม่
ไอเดียใหม่

โอ้เย
มีความสุขจริงๆเลย

ต่อไปจะทำงานแบบพระเจ้าแล้วนะคะ
ทำงานไปอย่างสนุกสนาน มีความสุข เพลิดเพลิน
เย้ๆๆ
เราจะโต๊
เราจะโต

6.11.50

การอัดแน่นของสสารในสมอง -_-"

วันเสาร์
ตื่นสายกว่าที่เคย แต่ก็ยังรู้สึกว่าง่วงมากอยู่ดี
13 ถึง 14 ประชุม
15 ถึง 19 ถ่าย scoop
21 ถึง 23 ไปงานคืนสู่เหย้า (เสียเงินเปล่าๆ ค่าเข้า 100 บาท โดยไม่ได้เตรียมตัว)
23 ถึง 24 วิ่งเรื่องรถโดนล๊อคล้อ (เสียเงินเปล่าๆ โดยรู้ตัวช้าเกินไป เลยทำอะไรไม่ได้)
นั่งแท็กซี่ไปกลับ 3 รอบ เนื่องจากลืมหยิบใบสั่งหน้ารถไปจ่ายตัง
เป็นวันแห่งการทดสอบที่เต็มไปด้วยความสนุกสนาน

เมื่อวานนี้เจอการขยายตัวอย่างรุนแรงของร่างกาย
ตอน 9 โมงถึง 15 อยู่โบสถ์
16 ถึง 20 อยู่คอนเสิร์ต Power of Praise ขาเกิดการขยายตัว เมื่อยมาก
20 ถึง 23 กินหมูกะทะ ตอนนี้กระเพาะขยายตัว
24 ถึง ตี 2 ขอบตาขยายตัว ตาบวมอย่างสนุกสนาน
เป็นการใช้ร่างกายอย่างคุ้มค่าจนถึงที่สุด

วันนี้
ตอนเช้านำนมัสการแบบไม่ทันตั้งตัว
ต่อจากนั้นเรียนพระคัมภีร์
11 ถึง 13 ประชุมกับ mkt คิด scoop
14 ถึง 17 ไปประชุมกับ mkt consultant
19 ถึง 21 ประชุมกับ media consultant อีกที่นึง

รับเละ หัวสมองถูกใช้งานอย่างเต็มที่
แต่ก็สนุกดี


ชีวิตได้ใช้คุ้มค่าแบบนี้
ไม่มีอะไรจะต้องเสียแล้วววววววววว
(เพราะไม่มีอะไรจะเสียแล้ว)
นี่เอาจริงๆ ข้อมูลอัดแน่น ให้เล่ารายละเอียดนี่เขียนได้ 4 หน้าเลย เยอะเกินไป เรื่องราวของคนหนึ่งคน

2.11.50

สัจจะ...จะทำให้ท่านทั้งหลายเป็นไท!

การเดินตามอารมณ์ความรู้สึกเป็นอะไรที่เหนื่อย
เหนื่อยเกินไป...
เหนื่อยที่จะต้องมาถามตัวเอง ตอบตัวเอง
ถามคนอื่น ตอบคนอื่น
เหนื่อยที่จะต้องมาท้อใจ มาคิดในสิ่งที่ไม่จริง
คิดไปเองทั้งน้านนนน ++

สัจจะ... แปลว่า...ความจริง
ความจริงที่พระเจ้าบอกคือ
จงรักและเชื่อใจในส่วนดีของคน
จงเอาความจริงตัดสินทุกสิ่ง
ส่วนความรู้สึก เอาไว้สัมผัสความรักพระเจ้า

ตอนนี้ตี 2.38 ที่ออฟฟิศ
วันก่อนที่เอาอารมณ์มาเป็นที่ตั้ง แค่ทุ่มนึงก็ปวดหัวอยากกลับบ้านแล้ว
วันนี้เข้าใจทุกอย่าง เริ่มตาสว่าง ตี 2 ก็ยังคึกได้

ขอบคุณพระเจ้าค่ะ
จงรักภักดี
เชื่อใจ
มั่นใจ
เข้าใจ
>_<

27.10.50

ค้นพบอีกแล้ว!!!

อะไรกันคะ
เข้าไปแก้ไขตัวหนังสือที่เขียนผิดเฉยๆ
มันดันเอาบทความเก่าขึ้นมาเป็นอันแรกซะนี่

เดี๋ยวใครจะงง ว่าไอ้นี่ป่วยอีกแล้วเหรอ
ไม่ใช่นะคะ

สัจธรรมอีกหนึ่งข้อ
ประวัติศาสตร์ลบไม่ได้
หรือถ้าจะแก้ไขให้มันดีขึ้น ก็ต้องแก้ไขให้เร็วที่สุด
อย่ารอให้เรื่องใหม่เกิดมาก่อน

เฮ้ออ
แค่แก้ตัวอักษรตัวเดียว
เรื่องราวใน blog ก็เรียงไม่เหมือนเดิมแล้ว
เสียดายยยยยยย

++เปื่อย++

ไม่ว่าจะเป็นเพราะอากาศเปลี่ยน
หรือเครียดจัด
หรือพักผ่อนไม่พอ

แต่ตอนนี้ก็ป่วยหนักไปแล้ว
ป้องกันไม่ทัน
ทรมานมาก ทั้งไอ ทั้งจาม ไข้ขึ้น ปวดหัว

แต่อยู่บ้านพักผ่อนก็หลับไม่ลงอยู่ดี
หลับตาก็คิดแต่เรื่องงานๆๆๆ
คนโทรมาหลายสิบสาย
ต้องเปิดเอ็มออนไลน์คุยงาน

อยากจะหายจริงๆเล้ยยยย
ขอบคุณพระเจ้า
มนุษย์ไม่ยอมพัก
พระเจ้าก็บังคับซะเลย

ขอบคุณทุกกำลังใจและทุกคนที่เป็นห่วงนะคะ
คอแห้งมาก ไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อนนะเนี่ย

www.gsus7.com

หกโมงเย็น วันศุกร์
เจ็ดโมงเช้า วันเสาร์
สิบกว่าชั่วโมงที่ตะลุยกันอยู่หน้าคอม เพื่อปั้นเว็บไซต์เจ้าปัญหา
(แต่ดันต้องปั้น เพราะเป็นหน้าตาสง่าราศี)

และแล้วมันก็ออกมาจนได้
อาจจะไม่ได้สวยงามเริ่ดหรู
ไม่ได้ดู Hitech อย่างที่คิดไว้แต่แรก
แต่ก็คิดว่า โชว์ได้ ไม่อายใคร (เท่าไหร่)

อีกครั้งสำหรับการยกทัพ "ซุย"
สนุกสนานและเต็มไปด้วยพลัง
เว็บไซต์ขอตั้งอีกชื่อหนึ่งว่า
--- เว็บไซต์สั่งได้ ---

ตลอด 1 สัปดาห์ที่ผ่านมา
ค้นพบสัจธรรมอย่างหนึ่งว่า
.....
website, Email และแม้กระทั่ง msn ที่ดูเหมือนไร้สาระเหลือเกินสำหรับใครบางคน
มันเป็นสิ่งที่มีประโยชน์อย่างแรง ช่วยเหลืองานหลายอย่างของใครหลายคนได้อย่างไม่น่าเชื่อ
อยู่ที่ว่าใครจะใช้เป็น และใครจะเห็นประโยชน์
.....

สิ่งที่เริ่มต้นมาจากจุดประสงค์ที่ดี
สามารถกลายไปเป็นเครื่องมือของความเลวร้ายได้
แต่ถ้าค้นเจอความดีของมันจริงๆ ถือว่าเริ่มฉลาด
เหมือนที่พระเจ้าสร้างมนุษย์มา
ดูเหมือนมันจะเลวร้ายกันไปซะหมด
แต่เอาเข้าจริง ทุกคนมีของดีและความดีน่ารักอยู่ในตัวกันทั้งนั้น (ขอย้ำว่าทุกคน)

เดี๋ยวจะลองไปหาคำตอบ
ว่าสิ่งที่สร้างมาจากจุดประสงค์ไม่ดี (ซึ่งคงสร้างมาจากมนุษย์บางคนในบางชั่ววูบของเขา)
จะสามารถเกิดเป็นเครื่องมือของสิ่งดีได้หรือเปล่า

Yep!!
มีบทเรียนและข้อคิดอีกเยอะใน week นี้
เดี๋ยวมาเล่าต่อ

...------...

22.10.50

-----------ประวัติศาสตร์ ---------------

เคยรู้สึกว่าตัวเองได้สร้างประวัติศาสตร์ที่สำคัญขึ้นมาสักอย่างไหม
มีเพลงหนึ่งของ Delirious?
ชื่อว่า History Maker
ท่อนฮุคเขียนว่า
"I'm gonna be a history maker in this land"

คนที่คิดแบบนี้จะมีใครด่ารึเปล่าว่า
'สำคัญตัวผิด'
555
เหมือนมองแง่ลบเลยเนอะ
แต่พระเจ้าก็บอกเสมอนี่นา
ว่าเราถูกตั้งไว้เพื่อทำการดี ที่จะเป็นการใหญ่ในอนาคต
เพราะฉะนั้น เราก็เป็น History Maker ได้สิ

วันศุกร์ที่ผ่านมา Gsus7 มีพนักงาน full time เพิ่มอีก 4 คน
เป็น 4 คนที่เข้ามาช่วยชีวิตพวกเราในงานแถลงข่าว
พี่เบน พี่ต่าย พี่สิทธิ และพี่โบ
ขอบคุณพระเจ้า
พี่ต่ายบอกว่า พระเจ้าเคยให้เขาเห็นภาพคนวิ่งขึ้นวิ่งลงในบริษํท ทำงานกันขวักไขว่
และเขาได้เห็นภาพนั้นที่ Gsus7 จริงๆ
พระเจ้าเรียกเขามาทำที่นี่อย่างเจาะจง
มาช่วยดูแลด้านมาร์เก็ตติ้ง ด้านที่มีงานมากมายและสำคัญกับบริษัทเหลือเกิน
ยิ่งเห็นจริงๆ ว่าพระเจ้าอยู่ด้วย
แล้วก็ยิ่งภูมิใจ ที่พระเจ้าเลือกให้มาอยู่ที่นี่ตั้งแต่แรกๆ
เพลงชาติ Gsus7 กลายเป็นเพลงที่ลึกซึ้งมากของเราไปแล้ว
(อยากรู้ว่าเพลงอะไร ร้องยังไง เดี๋ยววันหน้ามาเขียนนะจ๊ะ)

หลังจากประชุมบริษัทเสร็จ ก็ดิ่งไปขึ้นรถเพื่อไปค่ายกับน้องๆ ต่อ
เหน็ดเหนื่อย ไม่ได้นอน ป่วยตัวร้อนอีกต่างหาก
ไปถึงเกือบตี 1 นอนตี 2 กว่า ตื่นตี 5 ครึ่งมา Aerobox กะน้องๆ ครึ่งชม.

แทบหอบ -_-"

ว่าแล้ว สายๆ ก็สอนบทเรียน workshop น้องๆ 4 กลุ่ม กลุ่มละ 20 นาที
บ่ายๆ คุมฐานให้น้องเล่นเกม
เกมอย่างโหด น้องเลือดออกกันซิบๆ
เหมือนเดิม 4 กลุ่ม กลุ่มละ 20 นาที

เรี่ยวแรงและสุ้มเสียงหายไปกับสายลมทะเล
เหนื่อยไปไหน
เหนื่อยมาก


แต่คุ้ม
นานๆ ที จะได้ทำอะไรให้น้องๆ ได้เต็มที่ขนาดนี้
ค่ายครั้งนี้ชื่อค่ายว่า Teen เต็มที่
น้องๆ จะรู้ไหมนะ ว่าพี่โคตรเต็มที่เลย

คืนสุดท้าย
น้องๆ กลับห้องไปก่อน เราประชุมอีกเกือบชม.
พอกลับขึ้นห้องนอน ปรากฏว่าน้องๆ ทั้งหน่วยนั่งแบ่งปันข้อคิดจากค่ายด้วยกัน
ไม่มีใครนอนเลย

ประทับใจมาก
ประทับใจสุดๆ
น้องๆ ในหน่วยที่เราดูแล เป็นผู้ใหญ่กันได้ขนาดนี้
ขอบคุณพระเจ้า

นี่แหละ
ประวัติศาสตร์เล็กน้อยที่เราได้มีส่วนร่วม
อิงอิงค์บอกว่า "พี่หมี่พาอิงออกมาจากโลกส่วนตัวของอิง"
ผึ้งบอกว่า "พี่หมี่สอนให้ผึ้งรู้จักการเชื่อฟัง"
น้ำตาของน้องๆ ทำให้เราขอบคุณพระเจ้า
สิ่งที่ได้หว่านไป ไม่ได้เสียเปล่าเลย
เมื่อชีวิตเรามีผลต่อการเปลี่ยนแปลงบางสิ่งบางอย่างของใครสักคน
มันรู้สึกดีมาก
รู้สึกตัวเองมีคุณค่า
แล้วก็ภูมิใจ

ประวัติศาสตร์เล็กๆ แค่นี้ ที่เราได้ทำไว้
วันหนึ่งมันอาจจะมีผลอย่างไม่น่าเชื่อ

การ์ดหนุนใจใบแรกที่เขียนให้อิงอิงค์ ยังถูกเก็บไว้อย่างดี และเป็นที่หนุนน้ำใจเขาเสมอ
วันที่ตัดสินใจไม่ไปสัมภาษณ์งานที่ MARS เพราะรู้ว่าพระเจ้าจะให้ทำที่ Gsus7
การตัดสินใจวันนั้นอาจเป็นส่วนประกอบหนึ่ง ที่ทำให้วันนี้เกิดขึ้น

ขอบคุณพระเจ้าสำหรับน้องๆ ทุกคน
ขอบคุณพระเจ้าสำหรับหน่วย Perfect ชื่อที่ดีเลิศ
ขอบคุณพระเจ้าสำหรับเพื่อนร่วมงานที่ดี
ขอบคุณพระเจ้าสำหรับ Gsus7
ขอบคุณพระเจ้าสำหรับแม่ ที่เข้าใจ เชื่อใจ และไว้วางใจเสมอ

การมีชีวิตนี่มันมีความสุขจริงๆ
(แต่การมีชีวิตที่สร้างประวัติศาสตร์ดีๆ ไว้ในหัวใจใครสักคน น่าจะมีความสุขกว่า)

19.10.50

และ จีซัสเซเว่น!!!

เต็มๆเลย
ข่าวช่อง 9 วันนี้เกือบ 2 นาที
ออกข่าวงานแถลงข่าวของเราเต็มๆเลย
อ่านชื่อจีซัสเซเว่นเต็มๆเลย
ดีใจๆๆๆๆๆ

ง่วงนอนละ

17.10.50

Happy Ending!!!

จบลงไปแล้ว งานแถลงข่าวของเรา
--เปิดตัวโลกแอนิเมชั่นเพื่อเด็กไทย ผ่าน TACGA TOON--
น้ำตาจะไหล

งานออกมาด้วยดี
ไม่น่าเชื่อว่า Gsus7 จะมีวันนี้ได้รวดเร็วขนาดนี้
เป็น Grand opening มากๆ
สื่อมวลชนพร้อมกล้องตัวโตมากันหลายเจ้า

ไอ้คนเบื้องหลังอย่างเรา ก็ได้แต่ชื่นใจ
แม้ร่างกายจะเปื่อยเน่าไป
แต่จิตวิญญาณยังกระฉับกระเฉง กระชุ่มกระชวยอยู่
อิอิอิ

(เป็นอะไรอีกแล้ว มะวานป่วยเกือบตาย ทำอะไรไม่ไหว ทีวันนี้งานเสร็จละคึกเชียวนะไอ้หมี่)

สุดท้ายก่อนลาจาก
ผู้บริหาร Gsus7 อ.ศรัณย์ พูดได้ยอดเยี่ยม เยี่ยมยอด
ประทับใจลูกน้องจริงๆเล้ยยยยยยยยย

ขอบคุณพระเจ้าค่ะ

14.10.50

มึน กำลังจะหมุนไป กำลังจะหมุนไป แบบมึนๆ

ร้องจังหวะคล้ายเพลง เงินกำลังจะหมุนไปอะนะ

พอดีอยากเขียน
เขียนๆๆๆๆๆ
เขียนแล้วมันมีความสุข
เล่านู้นเล่านี้เล่านั้น
มันมีความสุขดี

คนบ้าอะไร
พูดก็เยอะ เขียนก็เยอะ
(ฟังให้เยอะด้วย จะได้ฉลาด)

คือมันมึนมาก จนไม่รู้จะเขียนอะไรน่ะ

รู้สึกว่าให้เกียรติคนมากขึ้น
ปล่อยให้เขาได้เรียนรู้และภูมิใจในตัวเองมากขึ้น
ทำงานตรงนี้ อาจจะมีคนไม่เข้าใจอยู่บ้าง
แต่วันหนึ่งเขาน่าจะเข้าใจ
มากขึ้น...
แล้วก็มากขึ้น...
เออ ต้องเครื่องหมายบวกสิ
++++

เจอกันรุ่งอรุณ

งานอีกแปดอย่างฝากไว้กับพระองค์นะคะ
กู๊ดไนท์

13.10.50

สืบเนื่องจาก ------

สืบเนื่องจากบทความล่าสุด
msn ของเรา
ซิ่งมอเตอร์ไซค์จากการแปลงไฟล์ที่ซอยตรงข้าม horizon
ดิ่งไปส่งเทปยังสี่แยก อสมท
ในเวลาเพียง 7 นาที -_-"
นับว่าเร็วมาก

นัยว่าน่าจะเกิดจากสาเหตุหลัก 2 ประการ ที่ทำให้ msn ของเราทำเวลาได้ดีขนาดนี้
1.เทปที่อยู่ในมือ มีมูลค่าถึง แสนสอง -- แสนสองค่ะพี่น้อง ไม่ใช่สองร้อย
2.msn เราชื่อ "ปืน" ถือว่ามีความไวในระดับเร็วกว่าสายตา (แป่ว!!)

ไม่หรอก เนื่องจากน้องขอกับพระเจ้าไว้ว่า ขอให้ไม่เกิน 10 นาที บวกด้วยการคิดใคร่ครวญและเตรียมตัวอย่างถึงที่สุด
(นึกภาพ ปืนนั่งอยู่บนมอเตอร์ไซค์ สตาร์ทแล้ว หัวพร้อมด้วยหมวกกันน๊อค ยื่นมาแค่มือเพื่อรับเทปที่แปลงไฟล์เสร็จ พอเทปแตะมือปั๊บ น้องบิดคันเร่งพุ่งไปเลย)
(เท่านั้นยังไม่พอ ก่อนออกเดินทางมีการนั่งคิดใคร่ครวญ วาดภาพผังเมืองและคำนวนทิศทางระยะเวลาและความเสี่ยงทั้งมวล เพื่อหาเส้นทางที่ส่งเทปใด้เร็วที่สุด)

คิดมากกว่าที่ทำงานทุกวันนี้ซะอีก

สืบเนื่องจากความตื่นเต้นในวันนั้น
และเรื่องราวอีกมากมายนับล้านแปดจนถึงวันนี้


เราก็ได้มาอธิษฐานด้วยกัน
แบบว่ารวมตัว Gsus7

พระเจ้าพูดด้วยว่า
ให้ทุกอย่างที่เป็นเราได้สรรเสริญพระเจ้า

การเจริญเติบโตของ Gsus7 และความก้าวหน้าของเรา จะทำให้คนรู้ว่าพระเจ้ายิ่งใหญ่และอัศจรรย์
การปฏิสัมพันธ์ที่จริงใจเสมอของเรา จะทำให้คนรู้จักความรักของพระเจ้า
การทำงานและดำเนินชีวิตที่ดี ไม่ทำบาปเหมือนคนอื่นๆ จะทำให้คนรู้ว่าพระเจ้าชอบธรรมและบริสุทธิ์

และที่สำคัญ
ทำงานหนักแต่อย่าลืมดูแลที่บ้านด้วยนะคะ

รายการทีวีกำลังจะดีขึ้นเรื่อยๆ แต่บ้านเน่าขึ้นทุกวันพร้อมๆกัน
นี่มันจะดีไหมเนี่ย

เฮ้ออออออ
เก็บบ้านก่อน

10.10.50

ใจหายใจคว่ำ!!

รายการออกอากาศตอนห้าโมงสิบนาที
ตอนนี้เทปรายการยังไม่ไปถึงช่องเก้าเลยยยยยยยย

อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
เดี่ยวจะมาอัพเดทอีกทีนะ
ว่าตกลงมันเป็นยังไงงงงงงงงงงงง

ตื่นเต้นจริงๆเล้ย ชีวิต
ขอบคุณพระเจ้า!!!!

Obey!!

เคยคิดว่าตัวเองเป็นคนที่เชื่อฟัง -_-"
แต่ด้วยความรั้น ที่ฝังอยู่ในชีวิตเก่าก่อน
ทำให้เราดื้อโดยไม่รู้ตัว

หลายสิ่งหลายอย่างที่ทำให้เหนื่อยอ่อนจนเกือบจะท้อ
บางทีก็ไม่รู้จะทำอะไรยังไง
บางทีก็ไม่รู้ว่าก้าวเข้าไปได้แค่ไหน
ไม่รู้ตัวว่าเริ่มล้ำเส้นซะแล้ว
เกินขอบข่ายการเชื่อฟัง

การทำงานที่เกี่ยวข้องกับคนมากมายเป็นเรื่องยาก
ยิ่งเกี่ยวกับเงินทอง
เกี่ยวกับสื่อ
เกี่ยวกับผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมือง

ยากจัง

แต่ว่าอย่าเพิ่งท้อใจ...
...ยังไงก็คงต้องทำต่อ
เพราะพระเจ้าให้มา...
...ทำงานกับพระเจ้า
ทำงานกับพี่น้อง...
...จะทิ้งไปได้ยังไง

สิ่งที่ต้องเปลี่ยนประจำวันนี้ คือ ...
++ เชื่อฟัง
++ ละเอียดและใส่ใจ
++ เลิกแซวชาวบ้านได้แล้ว (มันตกลงไปในใจคนนะ ทำชาวบ้านเขาเสียบุคลิกหมด)
++ เข้มแข็ง ไม่ท้อใจ ไม่ท้อใจ และไม่ท้อใจ

เฮ้อออออออออออออออออออออ
มันกำลังจะดีขึ้น
และมันต้องดีขึ้นแน่ๆ

เพราะบริษัทเรามี Art Di แล้ววววววว
เย้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
ขอบคุณพระเจ้า
(ไอ้พวกนี้ เป็นอะไร ต้องพิมพ์หางยาวๆ)

อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก

9.10.50

หมอกหรือควัน??

เออนะ
ทำไมอัพบล๊อกเมื่อกี๊ ถึงตั้งชื่อหมอกหรือควัน

พอดีฟังเพลงน่ะ เพราะดี
ชอบๆ
ชีวิตก็เป็นแบบนี้ล่ะ
เดี๋ยวเจอหมอก เดี๋ยวเจอควัน
แต่ว่าเราคงไม่หลงทางได้ง่ายเท่าไหร่

มันชัด >_<

หมอกหรือควัน

เมื่อวานไม่ได้กลับบ้าน
นอนตี 3 ติดกันมาเป็นอาทิตย์

วันนี้รายการออกอากาศเป็นเทปแรก
ถึงชื่อ producer เจ้าของรายการจะไม่ใช่ชื่อของเรา
แต่ก็ภูมิใจมากกกก
และลุ้นสุดใจในทุกขั้นตอน
เพราะอดหลับอดนอนปั้นมากับมือ

เห็นเราทำงานหนักแบบนี้
มีบางคนมองว่า ใช้ชีวิตได้คุ้มค่าซะจริง
วันนี้แม่ก็เตือนว่า "เดี๋ยวก็ตายก่อนหรอก"
เนื่องจากการตายได้กำไร เราเลยไม่กลัวตาย -_-"
เพียงแต่แอบรู้สึกดีที่แม่เป็นห่วง
แม่ดูรายการของเราด้วย!!

ดีใจแล้วก็ดีใจ
ไม่รู้จะพูดยังไงว่าดีใจ
เป้าหมายของ Gsus7 TV ที่เราเคยตั้งไว้
1.เข้าเนชั่น
2.มีสถานีทาง Internet
3.ต่อด้วยการนำรายการเข้า free TV

แล้วอยู่ดีๆ ก็ไปอยู่ในช่อง 9 จนได้
ในระยะเวลาการทำงานทั้งสิ้น 5 เดือน

พระเจ้าเป็นพระเจ้าแห่งการอัศจรรย์
และพระเจ้าทำให้เราภูมิใจได้เสมอที่เป็นลูกของพระองค์
ได้ทำสิ่งต่างๆ สารพัด (ขอย้ำว่าสารพัด) เพื่อรับใช้พระองค์

Thanks God my Lord!!
...Love You...

4.10.50

วาระ, ฤดูกาล และแผนการพระเจ้า

เวลาฟังเสียงกีตาร์ acoustic เพราะๆ
มักจะเห็นภาพตัวเองนั่งสบายๆ อยู่ในสวนสีเขียวๆ
แล้วก็มองเห็นสีฟ้าๆ ของท้องฟ้า

มีความสุข...

เมื่อวานนี้ไปแคร์
อาจจะเป็นเพราะเสียงกีตาร์บวกกับเสียงพระเจ้า
ทำให้เรามองเห็นภาพของกิ่งไม้ สีเขียวสดใส ที่กำลังผลิใบ และค่อยๆ ผลิดอกตามออกมา

ทุกสิ่งที่เกิดขึ้น มีระยะเวลาและวาระของมัน
วาระของการเกิด วาระของการทำลาย
วาระที่สั่นคลอน และวาระที่มั่นคง

และต้นไม้ที่ถูกปลูกขึ้น ก็ต้องมีวาระที่ผลิใบ เกิดดอกออกผล บางต้นก็อยู่ยาวนาน แต่บางต้นก็มีวาระที่ต้องตายไป
แต่ต้นไม้ที่พระเจ้าเป็นผู้ปลูก
จะไม่มีวาระที่ตายไป

การทำงานที่เริ่มต้นด้วยพระเจ้า
ก็จะผลิใบ และมั่นคงอยู่ยาวนาน

ปัญหาและอุปสรรคที่เข้ามา
มีเพื่อให้แก้ไขและก้าวข้ามผ่าน
การอดทนและรอคอยเป็นสิ่งสำคัญ

วันนี้ไปคุยกับสมาคม TACGA เพื่อพูดคุยปัญหาและทำข้อตกลงบางอย่าง
คณะกรรมการบอกว่าชอบผลงานของเรา
แนวโน้มทางการตลาดก็ดูเหมือนว่าจะไปได้ดีขึ้น
และการทำงานต่างๆ ก็จะถูกมอบให้ producer ตัวจริงของเขาซะที
เพื่อที่หมี่จะได้ไปทำในสิ่งที่ต้องทำ

มีความสุข...

ต่อจากนั้นไปคุยกับเนชั่น เพื่อเสนอรายการ Camera cafe
เขาชอบ content รายการเรา
เขาพูดถึงลักษณะรายการซึ่งมันตรงกับกลุ่มเป้าหมาย ตรงกับสไตล์ของช่อง
(หมี่ทำ research มากับมือ)
และเขาต้องการเรียกคุยเพื่อดูทีมของเราว่าจะทำได้จริงไหม

คำตอบคือ
เราได้เวลาที่เราต้องการ
และเริ่มทำรายการได้ทันที

ก่อนหน้านี้ไม่กี่วัน
ยังนั่งร้องไห้ไม่ยอมหยุด

เมื่อเรายอมเปลี่ยนใจ
พระเจ้าก็เปลี่ยนสถานการณ์

ขอบคุณพระเจ้า...
ภูมิใจจริงๆเล้ยยยยยยยยยยยยย

3.10.50

ความสุขภายในใจ...

ความสุขภายในใจ
ล้นอยู่เต็มภายใน
เร้าดวงใจ จิตวิญญาณให้เกิดความยินดี

พระประทานความสุข
ยามทุกข์ทรงเป็นเพื่อน
ทรงชูใจด้วยความเมตตา อย่างอัศจรรย์...

เช้าวันนี้ ร้องเพลงนี้ด้วยน้ำตา
น้ำตาอีกแล้ว
การร้องไห้อาจอ้อยอิ่งอยู่สักคืนหนึ่ง
แต่การร้องไห้ครั้งนี้ยาวนานมาถึงเช้าวันใหม่เลยล่ะ

เหมือนเป็นการปลดปล่อย
เมื่อได้รู้จักความบกพร่องอย่างถึงที่สุดของตัวเอง
คำถามที่เราถามพระเจ้าเสมอมา
คือเราบกพร่องตรงไหนบ้าง

อยากฉลาดมากกว่านี้
อยากคิดมากกว่านี้
อยากเก่งมากกว่านี้
อยากเชื่อฟังมากกว่านี้
อยากหยิ่งน้อยกว่านี้
อยากดื้อรั้นน้อยกว่านี้
อยากเปลี่ยนแปลงเพื่อที่จะเป็นพระพรได้มากกว่านี้
ไม่อยากให้พระเจ้าส่ายหน้าเมื่อเห็นเราทำหลายสิ่งอย่างโง่เขลา

ขอบคุณพระเจ้าค่ะ
เจ็บปวดและร้องไห้ได้ขนาดนี้
เป็นอีกความรู้สึกที่น่าจดจำจริงๆเล้ยย

นานแค่ไหนแล้วนะ
ที่ไม่ได้ร้องไห้คร่ำครวญกับพระเจ้า
ไม่ได้นอนอยู่แทบพระบาทพระองค์มานานแค่ไหนแล้วนะ


กำลังจะกลับไปนะคะพระเจ้า
ยิ่งรักพระเจ้า
ยิ่งเป็นคนอ่อนโยน

ถ้าอ่อนโยนได้มากกว่านี้ก็คงดีนะ
เอาเถอะ
แค่นี้ชีวิตก็มีความสุขขนาดไหนแล้ว

2.10.50

Tears

ครั้งแรก แต่อาจจะไม่ใช่ครั้งสุดท้าย
ที่เสียน้ำตาให้กับการทำงานที่ Gsus7

สมองที่มึนๆ ตื้อๆ
คงกำลังจะคลี่คลายและปลอดโปร่งขึ้น

ความเศร้าในใจ น่าจะกลายเป็นความชื่นชมยินดีได้ในไม่ช้า
(ใช้ศัพท์ได้ 'พระคัมภีร์' มากๆ)

ความบกพร่องอย่างหนึ่งของมนุษย์
ที่ทำให้เราเสียน้ำตาได้ง่ายเหลือเกิน
ก็คือการคิดอยู่ตลอดเวลาว่า...
เราไม่มีสิ่งดีใดๆ
และเราเป็นอุปสรรคของคนอื่น
T_T

มันเศร้าเกินไปแล้วค่ะพระเจ้า
และหนูก็กำลังพยายามฉุดตัวเองขึ้นมาจากความรู้สึกแบบนั้นอยู่

ไม่ใช่เวลาเล้ยยยยยยยยยยยยยยยยย

ไอ้เจ้ามารชั่ว
อย่ามากวนใจซะให้ยาก

ถ้าไม่ลุกขึ้น
ก็คงล้ม จมกองน้ำตาอยู่ตรงนี้
และคงอื่นๆ ก็คงสะดุดตัวเราได้ง่ายยิ่งกว่าเดิมเสียอีก

ไม่ได้แล้วล่ะ
คงต้องลุก

30.9.50

ตาจะปิดแล้วววววว

เคยไหม เวลาที่งานไม่เสร็จ แล้วทำอะไรไม่ได้
คือมันง่วงและมันต้องนอน

ตอนนี้ง่วงมาก
ความง่วงระดับนี้กับสคริปต์รายการ 3 เทป
โอ้เย...
ยากอยู่ทีเดียว

อัพเดทสถานการณ์ชีวิตให้ฟังอย่างคร่าวๆ
พรุ่งนี้ถ่ายรายการ 4 เทป
สคริปต์เสร็จ 1 เทป (มันกลับมาแล้วววววว ชีวิตการทำ TV ม่ายยยยยยยยยยย)
ฉากและprop ยังถือว่าไม่เรียบร้อย
content ยังไม่ครบเลยยยยยยยย
scoop ในรายการ ยังมีปัญหาที่ไม่ลงตัว
อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก
ยากเกินปายยยยยยยยยยย
.
.
.
.
.
.
และคำตอบก็มา

ไม่มีอะไรที่ยากสำหรับพระเจ้า

ทำใจไปเลยดิ ว่าจะไม่นอน

แล้วก็ทำมันซะให้เสร็จ

ได้ค่ะพระองค์
ได้ค่ะ
อีก 2วัน
มันก็จะเสร็จแล้ว
อีก 2วัน

อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก

สงบสติอารมณ์แล้วไปทำงานซะ

29.9.50

เมื่อต้องแยกทัพ

ครั้งแรกที่ออกอากาศรายการของ Gsus7 ทาง Nic Channel
เหลือทีมงานประจำบริษัทอยู่ประมาณ 2 คน
แล้วก็อาสาสมัครอีก 2-3 คนมาช่วยตัดต่อ ดูแลคอม และอยู่เป็นเพื่อน
ที่เหลือไปออกรบที่เชียงใหม่กันหมด

เป็นการแยกกันรบที่น่าตื่นเต้นมาก
ที่มหนึ่งซึ่งแทบไม่เคยออกกอง ต้องแบปอุปกรณ์ทั้งหมดไปถ่ายทำถึงเชียงใหม่
อีกทีมหนึ่งที่ต้องเอา 4 รายการออกอากาศให้ทัน ทั้งที่แทบยังไม่มีอะไรเสร็จเลย
พอได้มาเจอกัน ก็แลกเปลี่ยนประสบการณ์ไม่รู้จบ
(ตอนนี้ยังเล่าไม่ครบเลยมั้ง ว่าอยู่กรุงเทพ เจออะไรบ้าง)

และมันกำลังจะเกิดขึ้นอีกครั้งหนึ่ง
วันนี้มีงานออกบูท TACGATOON ที่เมืองทองธานี
ทีมหนึ่ง (ซึ่งกินไปเกือบทั้งบริษัท) ออกไปดูแล 3 บูธ
เอาที่จริงจำนวนคนไม่ถึง 10 คน ที่ต้องดูแล 3 บูธและเล่นเกม ขึ้นเวที มีพาเหรด รับสมัครสมาชิก
พอหรือเปล่ายังไม่รู้

แต่เราอยู่อีกทีม
2 คน กับ 1 อาสาสมัคร
และงานมากมายหน้าคอมที่ยังไม่เสร็จ

ความน่าตื่นเต้นมันกำลังจะกลับมาอีกแล้ว++++

วู้ว
ทำงานให้พระเจ้านี่มันตื่นเต้นจริงๆเลย
อีก 9 วันที่เหลือคงมีอะไรนับล้านมาเล่าสู่กันฟัง


พระเจ้าดูแล เสริมกำลังและอวยพรเพื่อนพี่น้องทุกคนนะ
อยู่กันคนละที่
แต่ใจก็ไม่ต่างกันนักหรอก
ทำให้พระเจ้าองค์เดียวกัน

25.9.50

เราไม่สามารถทำน้อยกว่าดีเลิศได้

แม้ดีเลิศแล้วแต่ก็ยังไม่ดี
แม้ไม่ดิเลิศของเรา
แต่อาจจะดีเลิศแล้ว สำหรับคนอื่น
แม้ดีเลิศของคนอื่น อาจจะไม่ใช่ดีเลิศของเรา

พี่ชายคนหนึ่งบอกไว้ใน comment ว่า "เราไม่สามารถทำน้อยกว่าดีเลิศได้"
(ไปเปิดอ่านเอาเอง)
เนื่องจากความเป็นมนุษย์ ทำให้ความดีเลิศจำกัด
แต่พระเจ้าคงอวยพรเราไม่ใช่ที่ผลงาน
แต่เป็นที่ความตั้งใจ

ความดีเลิศของเราที่ไม่ดี
อาจเป็นความดีเลิศในสายพระเนตรพระเจ้าก็ได้
ถ้าเราตั้งใจทำมันอย่างดีเลิศ


วันนี้พระเจ้าพูดด้วย (ผ่านบทเรียนตอนเช้า) บอกว่า
พระเจ้ารู้จักเราทุกสิ่ง
รู้ว่าเราทำอะไรได้ ทำอะไรไม่ได้
รู้ว่าเราทำบาปอะไรมา
รู้ว่าเราคิดยังไง เป็นยังไง อ่อนแอแค่ไหน

แต่พระเจ้าก็ยังให้โอกาสเราและเลือกเรา

ลึกเข้าไปแตะถึงหัวใจเลย
ความดีเลิศจากหัวใจของเรา
น่าจะเป็นความดีเลิศของพระเจ้าด้วย (หมายความว่า ทำไปเถอะ เต็มที่!!)

23.9.50

เครียด

เครียด
เครียด
เครียด
เครียด
เครียด

T_T





ขอโทษค่ะพระเจ้า
ขอบคุณพระองค์

ความยิ่งใหญ่ของพระเจ้า -------------------> ยาวไป ไม่มีที่สิ้นสุด

อยากเล่าให้ฟัง เกี่ยวกับงานที่ Gsus7 กำลังรับอยู่ตอนนี้
ด้วยกำลังคนเพียง 20 คน

--รายการ TACGATOON 5 เทป ที่ยังไม่มีอะไรเลย
--งานแถลงข่าวที่โรงภาพยนตร์ เชิญ media, TACGA, MCOT, Agency อย่างเต็มที่
--งานออกบูทที่ Challenger Hall สำหรับ TACGA 3 บูท 9 วัน
--ทำนามบัตร แฟ้ม และ showreel ของ Gsus7
--Gsus7 TV ออกอากาศ 24 ชม. เป็นรายการคริสเตียนทั้งช่อง

งานทุกอย่าง...
เป็นช่วงเริ่มต้นที่ยังไม่มีอะไรเลย
เป็นงานที่เราไม่เคยทำ
เป็นงานที่ไม่มีงบประมาณ
เป็นงานที่โผล่มาตอนที่งานเยอะอยู่แล้ว

ยิ่งทำไปเรื่อยๆ ก็ยิ่งมีงานเรื่อยๆ ยิ่งเห็นพระพรและการเปิดทางเรื่อยๆ
และเชื่อว่าพระเจ้าจะทรงนำเราไปเรื่อยๆ ด้วย

เพราะพระเจ้ายิ่งใหญ่มากกว่านั้น
มากกว่างานร้อยแปดอย่างที่เราต้องทำ
มากกว่าความไม่รู้เรื่องของเรา
มากกว่าความเหน็ดเหนื่อยที่เรามี


พระเจ้ายิ่งใหญ่กว่านั้นนะ
จำไว้ให้ดีค่ะ

ขอบคุณพระเจ้า

22.9.50

...สาเหตุแห่งความ Down...

ไม่รู้
อยู่ดีๆ ก็รู้สึก Down ขึ้นมา
เพิ่งจะบอกตัวเองไป ว่าไม่คิดอะไรไร้สาระ
และแล้วมันก็กลับมาจนได้
คิดไร้สาระ เพราะคิดเรื่องที่มีสาระไม่ออก
ขี้เกียจคิดงาน... ว่างั้นเหอะ

แป๊บนะ...
เดี๋ยวมา
ไปหาสาเหตุก่อน

หลายครั้งเราเดินตามอารมณ์และความรู้สึก
แต่ไม่เดินตามความจริงที่พระเจ้าบอกไว้
อารมณ์เรายิ่งเปลี่ยนง่าย
เดี๋ยวอารมณ์ดี เดี๋ยวเซ็ง
เดี๋ยวคิดถึงเรื่องนั้นก็เฮิร์ท
เดี๋ยวคิดถึงเรื่องนี้ก็มีความสุข

แล้วมันจะไปมั่นคงได้ยังไงล่ะ ชีวิตแบบนี้

กลับมาฟังและคิดในสิ่งที่ถูกต้อง
ยืนอยู่ในจุดที่ถูกต้อง
ดำเนินชีวิตด้วยความเชื่อและมั่นใจ


บทเรียนวันนี้คือ สำรวจใจตัวเองให้เร็วไว
และจัดการในสิ่งที่ต้องจัดการซะ
จะได้ไม่ค้างคา มาทำให้ชีวิต down อีกนะ

สู้ๆๆๆๆๆๆ

ชาวโลกสู้ๆ

20.9.50

ช่วยกันสร้างบ้าน /\

การทำงานที่ Gsus7
เหมือนกับการสร้างบ้านที่ยังสร้างไม่เสร็จ
ทุกคนต้องช่วยกันลงแรง
ก่ออิฐขึ้นทีละนิด
แล้วคอยดูแลตรวจสอบความปลอดภัยมั่นคง
ขณะเดียวกัน ก็ค่อยๆ ตกแต่งบ้านไปทีละนิด

มีคนบอกว่า การเข้าไปอยู่ในบ้านที่เสร็จแล้วก็สบายดี
แต่เราจะไม่มีโอกาสไปแต่งแต้ม ต่อเติมอะไรได้เท่าไหร่

วันนี้เรากำลังสร้างบ้านใหม่
เราเลือกทำเล เลือกสี เลือกโครงสร้างบ้านได้
ตามความตั้งใจของเรา

มันคงเหนื่อยหน่อย (ไม่หน่อย เหนื่อยมาก)
แต่มันเต็มไปด้วยความสุขและความภูมิใจ
อย่างน้อยเราก็เชื่อว่า
บ้านหลังนี้จะต้องเป็นบ้านที่ใหญ่โตและสวยงามแน่นอน

นึกถึงอนาคตข้างหน้าแล้วน้ำตาจะไหล
ดีใจในสิ่งที่พระเจ้ากำลังจะทำต่อไปน่ะ
(ไม่ใช่เครียดหรือกลัวทำงานหนักนะคะ อย่าเข้าใจผิด)

แต่มันเหนื่อยจริงๆ นะเนี่ย
-_-"

16.9.50

มนุษย์สมองซีกขวา -_-"

ทำไมคนส่วนใหญ่ถึงถนัดการใช้มือขวา

สมองซีกขวา ควบคุมการทำงานของอวัยวะซีกซ้าย
สมองซีกซ้าย ควบคุมการทำงานของอวัยวะซีกขวา

คนชอบใช้มือขวา เพราะสมองซีกซ้ายของคนส่วนใหญ่ทำงานหนักกว่าสมองซีกขวารึเปล่า

สมองสองซีกนี้ทำหน้าที่ต่างกัน
ฝั่งซ้ายเขาใช้เหตุผล
ส่วนฝั่งขวา เน้นจินตนาการ
(ที่จริงมันมีหน้าที่ความซับซ้อนที่แตกต่างกันหลายอย่าง ไป search google ดู แล้วจะรู้ค่ะ)

แสดงว่า คนส่วนใหญ่มักจะใช้เหตุผลมากกว่าจินตนาการหรือความคิดสร้างสรรค์
(นี่คิดตามตรรกะอยู่นะ)

นี่อาจเป็นเหตุผลที่ตอบคำถามว่า ทำไมศิลปินและนักสร้างสรรค์ pure art ต่างๆ ถึงมีน้อยกว่าคนทั่วไป
(โดยเฉพาะในประเทศไทย ที่แม่ส่วนใหญ่ไม่ยอมให้ลูกใช้มือซ้ายเขียนหนังสือ)

ความคิดสร้างสรรค์ คือ การสร้างสิ่งใหม่จากศูนย์, source ที่มีก็เพียงแค่ข้อมูลที่เกี่ยวข้องบางอย่าง
ไม่ใช่เรื่องง่าย สร้างสรรค์มากไปก็อาจจะกลายเป็นเพ้อฝัน

สมองซีกซ้ายช่วยเราในการประมวลความคิด สรุปและต่อยอด
แต่ถ้าใช้สมองซีกนี้ส่วนเดียว โลกก็คงไม่ค่อยจะน่าอยู่สักเท่าไหร่
เหตุผลหรือความจริงหลายอย่างบนโลก มันมีเพียงแค่หนึ่งเดียว เช่น 1+1 ก็เท่ากับ 2
มันจะสนุกได้ยังไง ถ้าความจริงนำไปสู่ข้อสรุปได้เพียงอย่างเดียว

คนที่ประสบความสำเร็จ น่าจะเป็นเพราะเขาเห็นคุณค่าของสมอง 2 ซีกอย่างเท่าเทียมกัน
ศิลปินเก่งๆ มีน้อยก็จริง แต่ดังคับโลก สร้างแรงบันดาลใจให้เด็กรุ่นหลังได้นับร้อยปี
(ถ้าเป็นศิลปินปัจจุบัน รวยง่ายอีกต่างหาก)
ศิลปินพวกนี้ถ้าติสต์แตกไม่สนใจใคร ทำงานสื่อสารไม่รู้เรื่อง ไม่มีความหมายใดๆ
ใครมันจะไปฟัง

พวกนักวิชาการ เหตุผลสนับสนุนร้อยแปดพันประการ ถ้าบริหารสมองซีกขวาไม่เป็น
วันหนึ่งเครียดจนสมองซีกซ้ายระเบิด
แล้วดันควบคุมสมองซีกขวาไม่ได้
นั่นไง นักวิชาการก็เพ้อฝันได้เหมือนกันนะ

++ อยากเป็นมนุษย์ที่ใช้สมองสองซีกได้อย่างมีประสิทธิภาพ ++
แต่ขอเอียงไปส่วนของสมองซีกขวาสักหน่อย
++ นั่นหมายความว่า อยากเป็นศิลปินที่มีเหตุผล มากกว่าผู้บริหารที่มีความคิดสร้างสรรค์ ++

แต่ยังไงก็เถอะ รักสมอง 2 ซีกให้เท่ากัน
เข้าใจมนุษย์ทั้ง 2 แบบให้ได้เหมือนกัน
ใครจะใช้สมองซีกไหนในการดำรงชีวิตมากกว่า
ก็ไม่ใช่เรื่องวุ่นวายของชีวิตเราแล้วล่ะ

สวัสดีชาวโลกซีกซ้าย

15.9.50

ดึกได้ขนาดนั้น -_-"

นี่มันตีสามครึ่งแล้ว
(เวลาที่ขึ้นบนบล๊อกอาจจะไม่ตรง ปรับไม่เป็น)
เป็นตีสามครึ่งที่ง่วงน้อยมาก
สงสัยวันนี้ตื่นสายจัด
เล่นเอาซะเต็มอิ่ม -_-"

งานบางอย่างต้องการแรงบันดาลใจ
งานบางอย่างต้องการความสนุกสนาน
งานบางอย่างต้องการความถนัดส่วนตัว
งานบางอย่างต้องการเวลาและสมาธิที่เฉพาะเจาะจง
งานบางอย่างต้องการคนบางคนอยู่ใกล้ๆ
งานบางอย่างไม่ต้องการอะไรเลย นอกจากความรู้สึกพิเศษที่เกิดขึ้น
เมื่อได้ทำงานที่เป็นตัวของตัวเองมากที่สุด

ทำไมบางวันตี 1 ก็ง่วงแล้ว
ทำไมบางวัน (อย่างวันนี้) ทำงานเรื่อยเปื่อยได้ถึงตี 3

สงสัยเป็นเพราะกาแฟที่กินไปตอน 6 โมง มันเข้มมากๆๆๆๆ
กิน 2 คำ ปวดหัวไป 2 ชม.
หน้าตึงยังกะกินเหล้า
สมองตื่นยังกะโด๊บยา

หรืองานหลายอย่างต้องการกาแฟจริงๆ

++บทความนี้อุทิศให้เพื่อนคนหนึ่งที่อยากทำงานที่ตัวเองรัก
แต่ไม่สามารถทำได้ เนื่องจากข้อจำกัดเยอะแยะมากมายเหลือเกิน
จำไว้แกเอ๋ย...
ไม่มีงานอะไรหรอกที่แกจะมีความสุขกับมันได้ตลอดเวลา
นอกจากว่าแกจะมีความสุขกับตัวแก และคนนั้นที่อยู่ข้างๆ แกตลอดเวลาให้ได้เสียก่อน++

กาแฟสักแก้วไหม??

12.9.50

What's a Relationship!

ความสำคัญของความสัมพันธ์เป็นเรื่องจริงจังมาก
หลายครั้งเรามีความสุข ก็เพราะเรื่องของเรากับเรื่องของคนอื่นมันไปด้วยกัน

แต่หลายครั้งไม่ใช่ เพราะเราไปกับใครบางคนไม่ได้
ความไม่เข้าใจทำให้เกิดความรู้สึก "ไม่ได้ดั่งใจ"

คนหนึ่งไม่เกรงใจ
คนหนึ่งไม่เข้าใจ
คนหนึ่งไม่กล้า
คนหนึ่งไม่เห็นใจ
คนหนึ่งไม่ให้อภัย
คนหนึ่งไม่คิดถึงคนอื่น

คนที่อยู่ข้างๆ ก็ล้มได้ง่ายๆ

เราอ่อนแอได้อย่างไม่น่าเชื่อเพราะคนรอบข้างของเรา
และเราก็เข้มแข็งได้อย่างไม่น่าเชื่อ เพราะคนรอบข้างของเราเหมือนกัน

++---++----++

วันนี้เกิดความรู้สึกบางอย่าง
เหน็ดเหนื่อยกับเรื่องบางเรื่อง

สิ่งที่อยากทำ
คือซุกอยู่ข้างๆ แม่
แล้วก็นอนเฉยๆอยู่อย่างนั้น

++---++----++

ถ้าไม่เหนื่อยคงไม่คิดถึงแม่ขนาดนั้น
บางทีเราก็ต้องการอ้อมกอดของคนที่ไม่เข้าใจความกังวลอะไรของเราเลย

ชีวิตเป็นสิ่งที่ดีนะ
พระเจ้าน่ารักเสมอในชีวิตของเรา
แม้กระทั่งความเหน็ดเหนื่อยและอ่อนแอ
ก็เกิดขึ้นมาในบางขณะ เพื่อที่จะให้เรารู้จักความรักที่อบอุ่นของพระเจ้า
และความรักเพียวๆ ง่ายๆ ของคนที่อยู่ใกล้ๆ เรา


http://www.onopen.com/2006/02/771


เพราะโลกหมุมด้วยความรัก
และถ้าคุณอยู่คนเดียว คุณจะรู้จักความรักได้ยังไง

9.9.50

Creative Director!!!


เคยบอกพี่นิยมไว้ว่า...

ชอบงานครีเอทีพ งานเขียนบท คิดนู้นนี้นั้น

ชอบมากกว่าการ produce


แต่ด้วยสถานการณ์ต่างๆ (และการทรงเรียกของพระเจ้า)

เราก็ได้กลายไปเป็น producer งาน production ต่างๆ


เมื่อวันเสาร์ มีการ set up ทีม production ใหม่ขึ้น

งาน production มี producer เกือบเต็มแป้น

ชื่อไอ้หมี่อยู่บนสุด ดูภาพรวมทั้งหมด


น้องกิ๊ฟ (ซึ่งเป็น marketing ของบริษัทเรา หุหุ) บอกว่า

ตำแหน่งนี้มีชื่อว่า Creative Director

คือคิดงานลงไปให้ production ผลิตรายการและผลงานออกมา ++


ที่ผ่านมาก็ทำหน้าที่นั้นอยู่แล้ว

คิดงานเบื้องต้น ทำเนื้อหา แล้วให้คนไปผลิตต่อ

ตำแหน่งชื่ออะไรก็ทำงานเหมือนเดิมแหละ

จริงไหม?


เราคงเหมาะกับงานคิดๆๆๆๆๆ มากกว่างาน production แหละนะ

แม้จะคิดไม่ได้เก่งอะไรนัก ไม่ได้ creative เริ่ดหรู

แต่น่าจะพอไหว

Creative Director เหรอ

ต้องดูกันไป


+++++.....+++++


วันนี้มี wording ใหม่

How far you can see!

เรามองไปไกลแค่ไหน

เราก็จะไปได้เท่านั้นแหละ


คงต้องเพิ่มความเชื่อ ความหวังใจ วิสัยทัศน์

และเพิ่มกำลังใจในการทำงานของตัวเอง

การบริหารคน จัดการระบบ

ไว้วางใจคนภายใต้

แก้ปัญหาเฉพาะหน้าให้เร็วที่สุด


เรียนรู้จักโลกภายนอกให้มากเข้าไว้


ทำในสิ่งที่ควรทำก่อน


+++++....+++++


ชีวิตของมนุษย์คนหนึ่ง ทำไมมีความสุขได้ขนาดนี้เนี่ย

ขอบคุณพระเจ้านะคะ

7.9.50

กลับมาแล้วววววว @(>_<)@

ตอนแรกตั้งใจว่าจะเขียนให้ได้ทุกวัน
เพราะแต่ละวันในชีวิตมันมีเรื่องให้เขียนเยอะแยะ
แต่อาจจะเป็นเพราะไอ้เรื่องเยอะแยะนี่แหละ
เลยทำให้ไม่ได้เขียนทุกวัน
แป่ว!
งงล่ะสิ

ลุกขึ้นมาแต่เช้าตรู่ (แปดโมงกว่า เช้าตรู่ที่ไหนล่ะ -_-")
เพราะว่าเมื่อวานมีเรื่องดีๆ เพียบเลย

ตกลงงานที่เราตั้งหน้าตั้งตาทำและรอคำตอบอยู่
ก็ได้คำตอบจริงๆ แล้วด้วย
เป็นคำตอบที่ดีเลยล่ะ

สมาคม TACGA เลือกเราเป็นพันธมิตรทำรายการส่งช่อง 9 (แม้จะยังไม่เป็นทางการ แต่ก็ดูน่าจะไปไหว)
รายการ Camera cafe ที่ทำไปให้เสนอเนชั่น เขาก็บอกว่าน่าจะได้แน่
ส่วนโรงเรียนสอนดนตรี ไม่ต้องไปทำแว้ว แต่ได้กำไรจากเว็บเกือบหมื่นแน่ะ
งาน Event ก็น่าจะกำลังไปได้สวย (เชื่อว่าอย่างนั้น)

เมื่อวานเช้าๆ ยังหดหู่อยู่เลย
กลัวไปหมด กลัวอะไรก็ไม่รู้
พระเจ้าก็น่ารัก

รักษาจนหายได้

อิอิ

Gsus7 จงเจริญ
เย้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

4.9.50

นี่แหละ ชีวิต

หลังจากที่ผ่านมรสุมความเครียดมาหลายวัน
weak มาก ทั้งร่างกายและจิตใจ
(ส่วนจิตวิญญาณก็ยังร้องหาพระเยซูอยู่ร่ำไป หุหุ)

เริ่มต้นสัปดาห์มาก็ได้รับคำหนุนน้ำใจเพียบ!
ใครที่ท้อใจ สับสนกับชีวิต คิดอะไรไม่ออก
เตรียมตัวฟังเสียงของพระเจ้าได้ในย่อหน้าสุดท้าย

ตอนนี้ก็สัญญากับตัวเอง โดยมี blog เป็นพยานปากเอกก่อน
++ จะหาสมุดเล็กๆ จดข้อคิดใหม่ๆ ที่ได้ทุกเวลา ++
++ จะเขียนหนังสือ "When He call me to be a TV producer" เพื่อให้คนเห็นความยิ่งใหญ่ของพระเจ้า
(และความซุยของเรา) ใน Gsus7 ++
++ จะอธิษฐานเผื่อทุกคนที่รับปากเอาไว้แล้ว (วันหนึ่ง อาจถึงขั้นมีสมุดจนคำอธ.เผื่อ) ++
++ จะเตรียมทุกอย่างอย่างดีเลิศ ทั้งบทเรียน วาระการประชุม ผลงานต่างๆ ++
พลาดมาเยอะเหลือเกิน อยากกลับใจใหม่ให้รู้แล้วรู้รอด

ข้อคิดประจำวัน
.. ทำทุกอย่างเหมือนเป็นครั้งสุดท้าย ..
.. ความรับผิดชอบ คือการทำอย่างดีที่สุด แม้เป็นสิ่งที่เราไม่ชอบ ..
.. เห็นคุณค่า deadline ทุกครั้ง ..
.. อุปสรรคปัญหาเกิดขึ้นทุกวัน ไม่เว้นวันหยุดราชการ -- จงอยู่กับมันให้ได้ ..
.. จงรักพระเจ้าให้มาก จนกล้าที่จะเลือกพระเจ้าก่อนในทุกกรณี ..
.. งานทุกอย่าง ปัญหาทุกสิ่ง มันมีทางออกที่ดีที่สุดของมันอยู่แล้ว ..
.. อย่าใช้แค่ประสบการณ์ตัวเองในการสอนคน แต่เปิดพระคัมภีร์ให้เขาเห็นเลย ..
.. ที่มืดในชีวิตเรา คือที่โล่งแจ้งของพระเจ้า ..
.. อย่าเลิกงานโดยไม่รู้ว่างานไปถึงไหนแล้ว ..
.. ศุนย์กลางของพระเจ้าคือมนุษย์ จงให้พระเจ้าเป็นศูนย์กลางของเรา ..
.. การทนทุกข์บนโลก 10 ปี ไม่ทรมานเท่าอยู่ในนรก 10 วินาที ดังนั้นอย่ามีอะไรมาทำให้เราท้อใจ ..
.. ทำไมเราเห็นคุณค่างานนอกบ้านมากกว่างานในบ้าน ..
.. คนที่รับความเป็นเราได้มากที่สุด ก็คือครอบครัวของเรา ..
.. อย่าคุยกับเพื่อนเฉพาะตอนมีธุระ ..
.. คนพิการก็เป็นประธานาธิบดีได้ อย่าดูถูกคนอื่น ..
.. รอยยิ้มเป็นเครื่องมือละลายใจคน ..
.. หัดทำอะไรเพื่อตัวเองบ้าง ..
.. อย่าลืมถังดับเพลิงที่อยู่ในบ้านของเรา ..
.. อย่าตัดสินใคร และอย่าคิดว่าใครตัดสินเรา ..
.. รักคนรอบข้างให้เหมือนคนในครอบครัว ..
.. แม้มือจะเหนื่อย แต่อย่าให้ใจท้อ ..


ขอบคุณพระเจ้าสำหรับทุกรอยยิ้ม ทุกเสียงหัวเราะ ทุกหยดน้ำตา และทุกถ้อยคำของทุกคน

3.9.50

กลับสู่จุดเริ่มต้น

มีเรื่องอะไรสักอย่างอยากเล่าให้ฟัง
แต่นั่งทำงาน
ทำงานๆๆๆ
กินข้าวๆๆๆ
คุยกับน้องๆๆๆ
ทำตารางเวลาๆๆๆ

ลืมไปเลย

ไปนอนก่อน พรุ่งนี้เช้าเจอกัน
เช้าจริงๆนะ ไม่ใช่แดดเปรี้ยงนะ

2.9.50

Love and Happiness, Forever.

วันนี้ไปดูละครคณะมา
ละครที่น้องๆ รุ่น 40 เป็น Head
ละคร feminist ชื่อว่า เปิด (กระ) โปงคอนแวนต์
เหมือนเคย ดูแล้วก็ลุ้นไปกับน้องๆ ว่ารอบนี้จะเป็นยังไง ถูกใจคนอื่นๆรึเปล่า
เหมือนเคย ดูแล้วก็คิดถึงวันเวลาเก่าๆ ของตัวเองที่มีชีวิตวิ่งไปวิ่งมาอยู่บนเวทีนั้น

อีกแล้วนะเนี่ย
เป็นสาว Emotional ตลอดเวลา เริ่มแก่ เริ่มเหนื่อย เริ่มรำลึกความหลัง
น่าภูมิใจจังที่เราเคยทำละครเวทีที่สนุกมากเรื่องหนึ่งบนเวทีนั้น
เป็นละครเวทีที่มีคนมาดูล้นหลาม ฉากอลังการเทียบเท่าถาปัด
เต้นสวยและมีความหมายทุกท่วงท่า(นี่!!)
เพลงประกอบก็เพราะทุกเพลง
เป็นละครเวทีที่รุ่น 37 รู้สึกตลอดเวลาว่า ดีที่สุด
พูดแล้วก็คิดถึงจังเลยเน้ออออออออ

เป็นสัจธรรมอีกข้อหนึ่ง
ความสุขและความรักเป็นเหมือนของอมตะนิรันดร์กาล
ไม่เคยหายไปไหน
เวลาเจ็บปวดกับอะไรสักอย่าง หรือทุกข์ทรมานกับความรู้สึกบางอย่าง...
ถ้าเรายอมให้มันหายไป วันหนึ่งมันจะหายไป
ต่างจากช่วงเวลาที่มีความสุข หรือช่วงเวลาที่รักใครสักคน หรือช่วงเวลาที่ได้ทำในสิ่งที่รัก
พอกลับไปนึกถึง มันจะเป็นความทรงจำที่มีค่า แล้วก็ทำให้อบอุ่นได้ตลอดเวลา

แม้อาจจะมีเรื่องที่แย่ๆ ปนอยู่ด้วยบ้าง
แต่ตอนที่เราผ่านมันมาแล้วและได้กลับไปนึกถึงมัน
ความรู้สึกแย่ๆ เหล่านั้นเหมือนกับกลืนหายไปตามเวลายังไงไม่รู้

เพราะความรักและความสุข แปรสภาพเป็นความทรงจำ
แต่ความทุกข์ ความเศร้าเสียใจต่างๆ นานา จะถูกเยียวยาด้วยเวลา
เวลาที่จะมีความรักและความสุขใหม่ๆ ผ่านเข้ามาอยู่เรื่อยๆ


แล้วชีวิตนี้ จะจมอยู่กับอะไรเพื่ออะไร

ความทรงจำดีๆ มันมีเยอะมากเลยนะ ชาวโลก

30.8.50

กะโหลกศรีษะ

เคยสงสัยไหม ---
ทำไมพระเยซูถึงต้องไปกลโกธา
กลโกธาที่แปลว่า "กะโหลกศรีษะ"

วันนี้นั่งเขียน Diary อย่างที่เขียนทุกวัน
บอกพระเจ้าไปว่า
เขกกะโหลกเราหน่อย ถ้าเราไม่น่ารัก

นั่งอ่านพระคัมภีร์
แล้วก็เจอคำเดียวกัน
"กะโหลกศรีษะ" สถานที่ที่พระเยซูแบกกางเขนขึ้นไป
ตายเพื่อเราบนนั้น

พระเจ้าคงอยากบอกเราว่า
ขอให้การตายและความรักของพระองค์
++ อยู่ในกะโหลกของเราตลอดเวลา ++

ในเวลาที่ทุกข์ใจ ท้อแท้หมดหวัง
--ความรักของพระเจ้าก็จะดังก้องอยู่ในกะโหลกของเรา--
ในเวลาที่ดื้อดึง จะลืมพระเจ้า
--ความเสียสละและพระคุณของพระเจ้า ก็จะคอยเคาะกะโหลกของเรา--

ขอบคุณพระเจ้าที่มาตายบนกะโหลกของเรา

29.8.50

วิธีการผ่าน moment วิกฤต

ความเครียดเกิดจากอะไร??

สำหรับเรา
ความเครียดและกดดันเกิดจากความรับผิดชอบที่อยู่ในมือ
ความรับผิดชอบที่ใหญ่ หนัก (บางทีก็คิดไปเองว่ามันหนัก) และไม่รู้ว่ามันจะสำเร็จได้ตามที่ตั้งใจหรือไม่

ทั้งที่เราก็ทำได้แค่นี้
ทั้งที่สุดท้าย คำตอบก็ไม่ได้อยู่กับความสำเร็จของงานหรือของใคร
ทั้งที่อีกไม่นาน เวลาแห่งความสุขหรือความผิดหวังมันก็จะเข้ามาและผ่านไปอย่างรวดเร็ว

พอมันผ่านมา แล้วมันก็ผ่านไป แล้วมันก็ทำอะไรไม่ได้
เราทำได้แค่ ทำตอนนี้ เวลานี้ให้ดีที่สุด
ไม่ไหวก็พัก
เหนื่อยก็หยุด

ถ้ามันจะไม่ไหวจริงๆจะทำอะไรได้
แล้วจะไปเครียดทำไม

ยังไงสุดท้ายมันก็ต้องผ่านไป ไม่ช้าก็เร็ว
ความรู้สึกทรมานทุรนทุรายบางอย่าง
เดี๋ยวมันก็ผ่านไป ไม่ช้าก็เร็ว
มันหายแน่นอน

ผ่านวิกฤตด้วยความอดทน เต็มที่ มีความมั่นใจในวันข้างหน้าให้มากขึ้น



พูดอะ ใครก็พูดได้
แล้วคิดได้รึยังล่ะเนี่ย

26.8.50

++ ชีวิตกับทางเลือก ++


เมื่อไม่นานมานี้ หลังจากที่ผ่านวันเวลาที่น่าหวั่นไหวในชีวิตมาสักพัก

ได้ค้นพบอะไรบางอย่าง


เชื่อไหมว่าไม่มีใครเลยที่สามารถบังคับเราได้

-- ที่จริงพระเจ้าบังคับเราได้ แต่พระเจ้ายังไม่ทำ แล้วใครหน้าไหนจะมาบังคับเราล่ะ --

ถ้าเราถูกสั่งให้กิน แต่เราไม่ยอมกลืนสักอย่าง (ลองทำดู ดันหลอดลมขึ้นมาปิดช่องอาหาร)

ใครจะบังคับเรากินได้...

-- การถูกเอาอะไรยัดลงคอไม่ถือเป็นการกิน แต่เป็นการทำร้ายร่างกาย --


ถ้าเราถูกสั่งให้ซื้ออะไรสักอย่าง แต่เราจะไม่ควักเงินออกจากกระเป๋า ใครจะบังคับเราซื้อได้

-- การถูกกระชากเงินในกระเป๋าออกไปให้แม่ค้า ไม่ถือเป็นการซื้อ แต่เป็นการโจรกรรม --


ถ้าเราถูกสั่งให้ไปไหนสักที่ แต่เราไม่ไป ใครจะมาบังคับเราไปได้

-- การรวบตัวขึ้นรถตู้ ไม่ถือเป็นการไป แต่เป็นการลักพาตัว --


จริงไหม?


ทุกสิ่งทุกอย่างที่มนุษย์ทำ เกิดจากการที่เราเลือกที่จะทำ

แม้ดูเหมือนใครสักคนมาบังคับใจเรา แต่ไม่มีใครมาบังคับการกระทำของเราได้


แล้วทำไมหลายครั้งเราถึงต้องเลือกทำในสิ่งที่เราไม่อยากทำ ทั้งที่ไม่มีใครบังคับเรา

++ เพราะเราทำตามที่คนอื่นทำ ทำตามที่คนอื่นสอน

++ เพราะเรารู้ว่าอะไรดีและควรทำ

++ เพราะเรากลัวผลที่จะเกิดตามมา

++ เพราะมนุษย์ไม่ได้อยู่คนเดียวบนโลก และเรามีความรู้สึกต่อคนอื่น

ทำให้เราไม่สามารถเลือกในสิ่งที่ไม่ควรเลือกได้ ในหลายครั้ง


ถ้าไม่อยากเรียนหนังสือ เราไม่เรียนก็ได้ ไม่มีใครบังคับได้ อย่างมากครูก็ตี พ่อแม่ดุด่าไม่เข้าใจ

แต่คนรอบข้างเราจะเสียใจ เราจะไม่มีอนาคต เราจะเจอความเสียหายในชีวิตแน่นอน

เราจะเลือกไหมล่ะ


เพราะมนุษย์ไม่ได้มีแค่ร่างกายตัวเองเท่านั้น

เราเลยต้องเลือกทำบางอย่างที่เราไม่อยากทำ ต้องเลือกที่จะไม่ทำบางอย่างที่อยากทำ

ต้องเลือกที่ทำบางอย่าง


แม้จะไม่มั่นใจกับมันอย่างเต็มที่


แต่เราก็ต้องเลือกอะไรสักอย่างอยู่ดี


คำตอบของคำถามอยู่ที่ไหน

(คำถามคืออะไรหว่า)

คำตอบที่ได้เรียนรู้จากพระเจ้าคือ


ในเมื่อเราต้องเลือกที่จะทำบางสิ่งบางอย่างอยู่แล้ว

และทุกอย่างที่เราเลือก มันมีผลตามมาแน่นอน

แม้สิ่งที่ดีที่สุด จะไม่ใช่สิ่งที่เราอยากได้ตอนนั้น แต่ยังไงเราก็ต้องเลือกอยู่ดี

จงเลือกในสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับเรา


สำหรับคนที่เลือกไปแล้ว เพราะเราไม่สามารถเปลี่ยนแปลงบางอย่างได้

หรือเราไม่สามารถที่จะตัดสินใจเลือกทางอื่นได้ ด้วยเหตุผลบางอย่าง

จงค้นหาวิธีการที่จะมีความสุขกับสิ่งที่เลือกแล้ว


รักพระเจ้าและรักทุกคนที่อยู่ในชีวิต

ถ้ากลับไปเปลี่ยนอะไรใหม่ได้ จะไม่เปลี่ยนอะไรอีกแล้ว

เพราะเลือกแล้ว และมีความสุขกับมันได้


สวัสดีชาวโลก

อย่าเพิ่ง งง กับปรัชญานะ


25.8.50

ความสามารถของมนุษย์ไม่มีขีดจำกัด !!

เคยนับกันบ้างไหม ว่าหนึ่งวันเราทำอะไรได้บ้าง ทำได้กี่อย่าง
เมื่อวานนี้กลับถึงบ้านตอนตี 2 ด้วยความเหน็ดเหนื่อยอย่างรุนแรง
ขนาดที่ว่า ไม่มีปัญญามาเขียน blog ให้หายเครียดเลยน่ะ -_-"

ก่อนจะนอนก็นั่งนับดูว่าเราทำอะไรไปบ้าง
ตื่น 9 โมง
+ ทำสคริปต์รายการ camera cafe
+ สรุปงานประชุม AE
+ ติดต่องาน Tacga คุยกับผู้ใหญ่อย่างเครียด
+ เตรียมแผนประชุมเชียงใหม่
+ ประสานงานถ่าย Demo
+ ไปติดต่อสัมพันธ์ประกันภัย
+ รวบรวม profile บริษัทเท่าที่หาได้
+ ถ่าย clip ช่วง tips
+ ไปใช้เวลากับน้อง 2 คน
+ ถ่าย demo รายการอีก 4 ชม.

วันเดียว ทำอะไรไปเกือบสิบอย่าง
ไม่ได้บอกว่าตัวเองเก่งนะ เพราะกลับบ้านด้วยสภาพใกล้ตาย
(แต่การตายก็ได้กำไรนะจ๊ะ)
แต่อยากจะบอกว่า
ความสามารถของมนุษย์ไม่มีขีดจำกัด
-- ที่จริงมันจำกัดแหละ ซุปเปอร์แมนยังมีจุดอ่อนเลย เพียงแต่มนุษย์มักจะใช้ศักยภาพตัวเองน้อยกว่าที่ทำได้จริง หลายร้อยเท่า --
ไม่ได้เว่อร์นะ


วันนี้ ไปถึงออฟฟิศ 11 โมง

เริ่มต้นการทำงาน

- ประชุมกับหัวหน้า
+ ทำสคริปต์
- ประชุมกับหัวหน้าและทีมงาน
- ประชุมกับทีมงาน
- ประชุมกับทีมไปเชียงใหม่
- ประชุมกับหัวหน้าอีกท่าน
+ เตรียมเนื้อหาประชุม
- ประชุมกับทีม creative และบอร์ดบริหาร 2 ท่าน

โอ้เย
อะไรก็เกิดขึ้นได้ในโลกใบนี้
เมื่อวานคิดกับเงิน 20 บาท ว่าพรุ่งนี้จะใช้เงินจากไหน
วันนี้คิดกับเงิน 5 ล้าน ว่าจะเอามาจากไหน
อะไรก็เกิดขึ้นได้ในโลกใบนี้


สนุกดีนะ ชาวโลก

23.8.50

ในที่สุด!!

ในที่สุดก็รู้ว่า AE ทำอะไรบ้าง
ในที่สุดก็ได้ประชุมเกี่ยวกับรายการใหม่
ในที่สุดก็กลับบ้านด้วยความอ่อนระโหยโรยแรง

ปวดหลังได้อย่างไม่น่าเชื่อ
คงเป็นเพราะนั่งหน้าคอมพิวเตอร์ตลอดเวลา
แก่ก่อนวัยแน่ๆ

ปวดหลังยังไม่พอ
ปวดหัวอีกต่างหาก
ไม่ว่าจะเป็นเพราะนอนน้อย คิดเยอะ มึนจัด หรืออากาศร้อนมาก (อีกประเด็น ความหิว)
ปวดหัวอย่างแรง

วันนี้ไปคุยกับลูกค้า
ได้เรียนรู้อย่างหนึ่งว่า
มองโลกด้วยความระมัดระวังบ้าง +++
อาจจะดูเหมือนระแวง กังวล
แต่การคิดให้ครบถ้วนมันก็สำคัญ
จริงไหม??
กลายเป็นยายแก่ขี้จิกไปทันควัน

ไม่น่าเชื่อว่าสมองของเราจะถูกใช้งานได้ขนาดนี้
บ้าไปแล้ววววววว
อ๊ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก

22.8.50

AE ทำอะไรบ้าง???

วันนี้มีการวางโครงสร้างการทำงานคร่าวๆ
รายชื่อกลายเป็น AE ฝ่ายโทรทัศน์
AE ทำอะไรบ้าง
เสนอขายงานต้องทำยังไงเหรอ
ไม่รู้เรื่องเลย

แต่ที่ผ่านมาก็ทำตำแหน่งนี้มาตลอด
ทั้งรับงาน คุยกับลูกค้า ปรึกษาผู้บริหาร ประสานงานทีม
ทำแบบนี้เรียกว่า AE ไหม

+--+--+--+

วันนี้อารมณ์ดีพอสมควรนิ
ขอบคุณพระเจ้า
อยู่ดีๆก็หายเครียด
ใครจะเชื่อว่าการไปทำงานที่ร้านขายกล้อง
จะช่วยให้ชีวิตมีความสุขขึ้นได้
(ทั้งที่งานก็ไม่ได้เสร็จเพิ่มขึ้นเท่าไหร่)

เป้าหมายต่อไป
รายการตลกคริสเตียน
555

21.8.50

ปลาชุม ปลาชุม บลา บลา บลา


วันนี้วันเดียว มีการประชุมเกิดขึ้น 4 ครั้ง

ท่าทางปลาจะชุม เราเลยต้องประชุมเยอะขนาดนี้


เป็นตรรกะจริงๆ ที่สมองซีกซ้ายและสมองซีกขวาทำงานกันคนละหน้าที่

พอต้องบริหารอะไรสักอย่าง ติดต่อประสานงานมากมาย คิดโครงสร้างนู้นนี้นั้น


ความคิดสร้างสรรค์ไม่บังเกิด -_-"

มนุษย์ใช้ประสิทธิภาพการทำงานของสมองทั้งสองข้างพร้อมกันได้

เราเชื่ออย่างนั้น

มนุษย์สามารถทำหลายสิ่งหลายอย่างที่แตกต่างกันได้ในช่วงเวลาเดียวกัน

เราก็เชื่ออย่างนั้นด้วย


แต่คงต้องใช้พยายามอย่างมากจริงๆ

เพราะสิ่งล่อลวงและอุปสรรคมันโจมตีเหลือเกิน


สู้ต่อไป ++

ลองฝึกบริหารการใช้ชีวิต เพื่อเป็นการบริหารความสามารถและความเข้าใจไปพร้อมกัน


งานที่เราไม่ชอบ เอามาทำช่วงเช้า ช่วงมีแรง

งานที่เราชอบ เก็บไว้ทำตอนเหนื่อยๆ


เวลาทำอะไรที่ชอบ เหนื่อยแค่ไหนก็ไหว

ดูหนังรอบตี 1 ยังดูได้เลย

ถ้าเป็นหนังที่อยากดูจริงๆ


ปลาชุม ปลาชุม

Happy กับการทำงานเข้าไว้

นะจ๊ะชาวโลก

20.8.50

It's my blog!!

เชยมาก ถ้าจะบอกว่าดีใจจังที่มี blog เป็นของตัวเอง
เอาเป็นว่า --
คนช่างเขียนช่างพูดอย่างเรา จะมีพื้นที่ของตัวเองกับเขาบ้าง
เวลาเล่าอะไรแล้วไม่มีใครฟัง ก็จะเอามาลง blog นี่ล่ะ
(ฟังดูน่าสงสารไหม)
วันแรกไม่เล่าไม่คุยไม่สนใจอะไรแล้วกัน
ไปเคลียร์งานก่อน

สวัสดีชาวโลก