31.1.52

มหกรรมตีแบต

เมื่อวานนี้ กลับถึงบ้านตี 2
เวลาใกล้เคียงกับตอนเที่ยวกลางคืนในช่วงชีวิต มหา'ลัย

แต่ว่าไม่ได้ไปเที่ยวกลางคืน...
ไปเล่นแบตมินตัน!
ไกลด้วย พระราม 3 เชียว

หลังจากที่ไม่ได้เข้าร่วมกิจกรรมเยี่ยงนี้มานานนับแรม (หลาย) ปี
เห็นเพื่อนพี่น้องรวมตัวกันอย่างแข็งแรงเพื่อการนี้ ก็ต้องไปซะหน่อย
ก็ไปซะ... กะว่าจะไม่เล่นด้วยนะ
เล่นไม่เป็น
.
.
.
.
3 รอบเท่านั้น
อะดรีนาลีนหลั่งไหล
เหงื่อออก
แล้วก็หมดแรงง

ตั้งใจไว้กับตัวเองและพระเจ้าว่า
จะกลับมาดูแลตัวเองในปีนี้
จะออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ
(ว่าแล้ว ผ่านมาเดือนนึง ก็ยังไม่ได้ไปฟิตเนสแม้สักครั้งเดียว)

ก็คิดว่าจะไปทุกสัปดาห์ล่ะนะ
ครั้งๆ ต่อไป คงจะเล่นได้อึดกว่านี้ล่ะ

>_<

24.1.52

Sunset....Sunrise

เป็นคนไม่มีความสามารถเรื่องการถ่ายรูป
ไม่ว่าจะเป็นด้านอาร์ต หรือด้านเทคนิค
แต่ว่าคราวนี้อยากลงรูปที่ตัวเองถ่าย (มั้ง)
เพราะเป็นรูปแห่งความทรงจำ

อาทิตย์ตกครั้งสุดท้ายของปี 2008

















และ....


อาทิตย์ขึ้นครั้งแรกของปี 2009
ณ ภูชี้ฟ้า ที่เต็มไปด้วยทะเลหมอก

















เคยเห็นรูปนี้แต่ใน Internet ก็ว่าสวยแล้วนะ
แต่เพราะว่าอากาศหนาวๆ และทางเดินขึ้นภูเขา 700 เมตร
ทำให้ของจริงสุดยอดกว่ามาก

รูป 2 รูปนี้ เวลาถ่ายห่างกันชั่วข้ามคืน
แต่กลายเป็นรูปถ่ายคนละปีกันซะแล้ว

++++++++

เคยดูหนังเรื่องหนึ่ง
เป็นหนังในดวงใจอันดับต้นๆ

มี 2 ภาค
ภาคแรกชื่อว่า Before Sunrise
และภาคต่อชื่อว่า Before Sunset
จากภาคแรกไปถึงภาคที่สอง มีระยะเวลาห่างกัน 9 ปี....
พระเอกและนางเอก เจอกันโดยไม่ได้ตั้งใจระหว่างการเดินทาง
ตกหลุมรัก
และก็ต้องจากไปเมื่อถึงเวลา

9 ปีผ่านไป แม้ความรู้สึกยังอยู่
แต่อะไรๆ ก็ไม่เหมือนเดิม

เห็นภาพถ่ายแล้วนึกถึง
แค่ข้ามคืนเดียว อะไรๆ เปลี่ยนไปตั้งเยอะ
ขนาดปีค.ศ. บนโลกใบนี้ก็ปลี่ยนไปทั่วทุกที่
ถ้าเวลาผ่านไป 9 ปี จำนวนสิ่งที่เปลี่ยน ถ้านับได้นี่จะขนาดไหนนะ
++++++++


เป้าหมายของชีวิตนี้อีกหนึ่งอย่าง
เก็บประสบการณ์ชีวิตด้วยการเที่ยวทั่วไทย
ไม่ไปไม่รู้


...

นอกจากว่าบนสวรรค์จะมีเจ๋งกว่านี้
อิอิ

21.1.52

ไม่เคยลืม

ย้อนกลับไปดูบทความเมื่อวันเก่าๆ
(ทำตัวเหมือนคนแก่)
ชีวิตแต่ก่อนมันช่าง... นะ
เต็มไปด้วยพลังและความคิดที่สดใสสวยงาม
มีความสุขทุกเวลา
กระตือรือร้นแบบไม่มีแบตอ่อน

ผ่านมา 1 ปีถ้วนๆ กับนิดๆ
รู้สึกว่าตัวเองเปลี่ยนไป
แต่ไม่ว่าเราจะเปลี่ยนไปยังไง
พระสัญญาพระเจ้าที่เคยมีก็ไม่เคยเปลี่ยน

ได้อ่านบล๊อกของวันที่ 18.12.2007
"ใกล้จะสิ้นปีแล้ว...
ปีที่ได้รู้จักตัวเองมากอย่างไม่น่าเชื่อ
ปีที่เปลี่ยนแปลงเส้นทางชีวิตไปทางที่ควรไป
ปีที่รู้สึกว่าตัวเองได้พัฒนาในหลายด้านมากขึ้นมากกกกกกกกก"

"การเป็นตัวของตัวเอง อาจไม่ได้หมายความถึงการตามใจตัวเอง
แต่อาจหมายถึงการเอาอะไรๆ ออกไปจากชีวิต
เพื่อที่จะเรียนรู้สิ่งที่อยู่ในตัวเองให้มากขึ้นและเดินต่อไปด้วยสิ่งนั้น ++ ด้วยความมั่นใจ"

"อีกหนึ่งสิ่งที่ต้องพัฒนาในปีต่อไปคงเป็นการเอาอะไรๆ ออกไปจากหัวในเวลาที่ควร..."

ปีที่แล้ว ได้รู้จักตัวเองมากขึ้นขนาดนั้น
แล้วปีนี้ได้รู้จักตัวเองมากขึ้นขนาดไหนเนี่ย
รู้สึกว่ามากกว่าเดิมเป็น 10 เท่า
แต่อากัปกิริยาแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง

เรียนรู้เป็นอย่างมากจริงๆ ว่า
ยิ่งเราเป็นผู้ใหญ่ในการดำเนินชีวิตมากขึ้นเท่าไหร่
เติบโตในการเดินกับพระเจ้ามากเท่าไหร่
ชีวิตยิ่งไม่ค่อยจะเหลืออะไร
เหลือแต่คุณค่าที่มันอยู่ "ข้างใน" นั่นแหละ ที่จริง!

พระเจ้าช่วยหมี่ในการเอา "อะไรๆ" ออกไปมากมายเหมือนกันนะคะ
ขอบคุณพระองค์

11.1.52

เติบโต...

ผ่านปีใหม่มา 11 วันแล้ว...
มีเรื่องในหัวเยอะแยะไปหมดที่อยากมาเล่าลง blog
วันแต่ละวันในปีใหม่ มีความหมายอย่างไม่น่าเชื่อในก้าวต่อไปของชีวิต

ของขวัญชิ้นแรกจากงานฉลองปีใหม่ของโบสถ์

วันส่งท้ายปีเก่า
ได้เห็นดวงอาทิตย์ตกครั้งสุดท้ายของปี
และได้เห็นดวงอาทิตย์ขึ้นครั้งแรกของปีในวันขึ้นปีใหม่
บนภูชี้ฟ้าที่สูง หนาว งดงาม มหัศจรรย์ไปด้วยทะเลหมอก
ของขวัญชิ้นที่สองจากพระเจ้า

Hillsong's worship และเพลง Saviour King
เพลงนมัสการที่อธิษฐานขอพระเจ้าในวันสัมมนาผู้นำนมัสการ
ของขวัญชิ้นที่สามจากพระเจ้า

ความเข้าใจผิดและปัญหาที่เกิดขึ้นระหว่างคนสองคน
ความรักและความเข้าใจที่มากขึ้นกว่าเดิม เมื่อเราได้เคลียร์กัน
ของขวัญชิ้นที่สี่จากพระเจ้า

Power of promise กับเรื่องราวของอับราฮัม
Promise land ในหนังสือเรื่อง the last lecture
และ Promise land and Israle ในคำเทศน์ของ Joyce Mayer
การตอกย้ำในพระสัญญาและการก้าวออกไปเพื่อเข้าสู่ดินแดนแห่งพระสัญญา
ของขวัญชิ้นที่ห้าจากพระเจ้า

สิ่งที่ค้นพบและรู้สึกดีใจมากที่สุด
คือการได้เรียนรู้ว่า เราโตขึ้น
เป็นผู้ใหญ่ที่รู้ในสิ่งที่ควรรู้
เห็นในสิ่งที่ควรเห็น
เข้าใจในสิ่งที่ควรเข้าใจ
เข้าใจความเป็นไปของโลกใบนี้
เข้าใจตัวเอง
เข้าใจคนอื่น
เข้าใจพระเจ้า
ของขวัญชิ้นที่หกจากพระเจ้า

ก็ 2 ปีที่แล้วใน Gsus7 ผ่านอะไรมาตั้งเยอะ
ต่อสู้กับตัวเอง (และคนอื่น) มาตั้งเท่าไหร่
วันนี้คงจะยังไม่โตเท่าที่เราจะสามารถโตได้
แต่มั่นใจว่าเราเติบโตขึ้นสมกับขนาดและเวลาที่พระเจ้าวางไว้

ได้ค้นพบว่า
ชีวิตที่มีความหมาย
ยิ่งเดินไปเรื่อยๆ ยิ่งไม่เหลืออะไร
เพราะว่าความหมายอยู่ในตัวของมันเอง

ได้ค้นพบว่า
พระเจ้าไม่เคยมาสาย และพระเจ้าไม่เคยผิดพลาด
ชีวิตมีคุณค่าเสมอเมื่อฟังเสียงพระเจ้า
เพราะพระเจ้าโปรดปรานลูกของพระองค์ที่รักพระองค์มากกว่าสิ่งใด

บางทีมนุษย์ก็สร้างความเศร้าเสียใจให้เราบ้าง
บางทีมนุษย์ก็ทำให้เราหวั่นไหวและหวาดกลัวบ้าง
บางทีตัวเราก็ไม่เชื่อในตัวเราเองบ้าง
บางทีเราก็หยิ่งและเร็วเกินไปที่จะฟังคนอื่น

แต่ว่าขอบคุณพระเจ้า
พระองค์ให้เกียรติและเห็นคุณค่าหมี่ พระองค์ให้ความมั่นใจในสิ่งที่หมี่คิด
พระองค์รักและดูแลหมี่เหมือนพ่อที่รู้ใจ พระองค์ให้ในสิ่งที่หมี่ขอ
พระองค์รู้จักหมี่ และพร้อมจะสนับสนุนในสิ่งที่หมี่เป็น
พระองค์สอนหมี่ พระองค์สร้างหมี่ผ่านการเตือนที่อ่อนโยน
การผ่านความเจ็บปวดในชีวิตไม่ยากเกินไปเมื่อมีพระเจ้า

ใช้ชีวิตที่มีให้ 100%
เรียนรู้ให้ได้ 100%
รักให้ได้ 100%
ทำในสิ่งที่เชื่อให้ 100%
และไว้วางใจในแผนการพระเจ้า 100%

เรียนรู้จักวิธีการที่ดีที่สุดของเราในการใช้ชีวิต
เรียนรู้จักวิธีการของพระเจ้าในชีวิตของเรา
อย่าหยุดที่จะเติบโต
อย่าหยุดที่จะเปลี่ยนแปลงไปสู่สิ่งที่ดีกว่า เพื่อตัวเอง เพื่อคนรอบข้าง เพื่อโลก
เรียนรู้ที่จะมีความสุขและอย่าหยุดที่จะมีความสุข

บนโลกใบนี้ ทุกอย่างมีเหตุผล
มีสิ่งที่เราควบคุมได้ จงควบคุมให้ดีที่สุด
และมีสิ่งที่เราควบคุมไม่ได้ จงไว้วางใจพระเจ้าอย่างที่สุด

คนทุกคนมีรายละเอียด
จงใส่ใจและเห็นความสำคัญ
อาจจะทำให้เจ็บปวดหรือน้ำตาไหลไปกับเขา
แต่มันดีกว่าไม่รู้สึกอะไรเลย

สิ่งที่สำคัญที่สุดในชีวิตคือ
ความรักพระเจ้า คุณค่าของตัวเอง และความสัมพันธ์

ขอบคุณที่อ่านจนจบค่ะ
ขอบคุณพระเจ้า
ไม่ว่าอะไรจะเกิด ไม่ว่าโลกจะเป็นยังไง
But God!
But God!
But God....!

To...2009...

" เธออออออ
ขอบใจมากสำหรับน้ำหอม
ชั้นเพิ่งกลับมาจากเชียงใหม่ เลยเพิ่งได้ของ
แล้วก็เพิ่งจะเห็นการ์ด
พอเห็นแล้วก็มาพิมพ์เมลส่งให้เธอเลยเนี่ย

อากาศหนาวมากตอนนี้
แล้วก็ไอเป็นระยะ
แต่ไม่ต้องห่วง ยังแข็งแรงดี

ชั้นตัดสินใจแล้วว่า.... [ละไว้ในฐานที่ (เธอ) เข้าใจ (คนเดียว)ก็พอ]


อ่านการ์ดเธอแล้วชั้นจะร้องไห้
คิดถึงเธอมากเหมือนกันว่ะ

ช่วงปีใหม่นี้ ชั้นเรียนรู้อย่างหนึ่งว่า
เราควรต้องทำในสิ่งที่คิดว่าดีกับตัวเราและอนาคตของเรามากที่สุด
ในขอบเขตความคิดที่มีคนอื่นมาอยู่ด้วยแล้ว
หมายถึงคิดเผื่อคนอื่นแล้ว
ไม่ได้แปลว่าเห็นแก่ตัว
แต่แปลว่าความฝันและแรงบันดาลใจมีจริง
การค้นหาเป้าหมายของชีวิต จำเป็นต่อการใช้ชีวิตจริงๆ
วันนี้อาจจะดูดื้อด้าน ดื้อดึง ไม่มั่นคงในสายตาคนอื่นบ้าง
แต่ว่าวันหนึ่งสิ่งที่เราตัดสินใจมันจะดีต่อเขาและเราเอง

เว่อร์มะ
5555

ชั้นแค่จะบอกว่าชั้นภูมิใจในตัวเธอว่ะ
อย่างน้อยการตัดสินใจครั้งนี้มันน่าจะเปลี่ยนเธอ เปลี่ยนความคิดของเธอ
เปลี่ยนนิสัยแย่ๆ ของเธอ และเพิ่มนิสัยดีๆ ของเธอให้เธอโตขึ้น

ดีใจมากที่ได้อ่านการ์ดของเธอในวันปีใหม่นี้
ชั้นไม่มีของขวัญอะไรจะให้เธอหรอก
ไม่มีเงินและไม่มีเวลาไปซื้อ
ที่จริงก็ไม่มีเวลาคิดด้วยว่าจะให้อะไร
555
พูดเล่นนะ
รอชั้นเอาไปให้ทีเดียวตอนเดือนเมษายนละกัน

ขอบใจมากสำหรับกำลังใจจากแดนไกล
มีประโยชน์มากกว่าตอนอยู่ใกล้ๆ เยอะ
55555
Happy New Year! 2009
โตขึ้นสองพันก้าว

เสี่ยวมะ
5555 "

หมี่ส่งอีเมลให้น้องสาว
ทันทีที่ได้รับของขวัญปีใหม่ เป็นน้ำหอม 3 ขวด
และการ์ดอวยพร handmade ที่สวยกว่าซื้อที่ร้านซะอีก

ช่วงก้าวข้ามผ่านปี 2008 เข้าสู่ปี 2009
เป็นช่วงแห่งความอัศจรรย์อีกครั้งในชีวิต

ย้ำเหมือนที่เคยย้ำ
ชีวิตเป็นสิ่งมีคุณค่า
และชีวิต "หมี่" (และของทุกคนด้วย ถ้าคุณเชื่อแบบนั้น) ถูกสร้างมาเพื่อให้มีความสุข
เป็นวัตถุประสงค์หนึ่ง (ในหลากหลายข้อ) ที่ละเลยไม่ได้เชียวล่ะ

ขอบคุณพระเจ้าสำหรับทุกสิ่งจริงๆ ค่ะ