28.7.51

... Bird eye view ...

เป็นชื่อบริษัทรับผลิตงาน production แห่งหนึ่ง
และเป็นชื่อมุมมองชนิดหนึ่งที่ใช้เรียกกันในแวดวงการถ่ายภาพและถ่ายวีดีโอ

เวลาที่นกกำลังบิน แล้วมองลงมาจากฟ้า
มันคงจะเห็นถนนที่ต่อยาวเชื่อมกันหมดทั้งเมือง
เห็นทางตัน ที่แอบมีทางออกอยู่ซอกหลืบเล็กๆ สักแห่ง

มันอาจจะเห็นคนกำลังมุ่งตรงไปทางไหนสักทาง
และกำลังจะชนกับอีกคน ตรงมุมตึก

มันอาจจะเห็นคนที่กำลังยืนรอคน และเห็นคนที่ถูกรอกำลังขับรถมาอย่างเร็ว

มันอาจจะเห็นที่สุดปลายทางถนน ที่ใครๆ ก็มุ่งหน้าไป
เป็นปลายทางที่นำไปสู่ความมรณา
ทั้งที่บรรดาคนที่กำลังมุ่งหน้าไป ไม่เฉลียวใจสักนิด

ถ้าใครเคยอ่าน Harry Potter ลองนึกภาพตาม
เวลาที่เรามองแผนที่ตัวกวน ก็คงจะเหมือนกับที่นกมองเรา
มีคนมากมายในฮอกวอตส์เดินไปเดินมา
แต่ละคนที่เดินอยู่ ก็ไม่รู้ว่าจะเจออะไรบ้าง
แต่สำหรับเราที่มองแบบ bird eye view
เห็นทะลุหมดทุกอย่าง

เวลาที่เราต้องเป็นผู้นำ ต้องดูแลคนมากมาย มีงานอยู่ในมือหลายอย่าง
สิ่งที่เราต้อง Care และต้อง Focus ก็มีหลายๆ ชิ้น
ถ้าหากเราเดินไปเรื่อยๆ มองแค่เส้นทางที่ไปข้างหน้า
ก็คงยาก ที่จะดูแลสิ่งอื่นๆ ได้ไหว
เพราะแค่เดินคนเดียวให้ถูกทาง ยังยากเลย สำหรับ Sight seeing แบบนั้น

เรียนรู้ที่จะมองมุมสูงเข้าไว้

เพื่อให้มองเห็นเวลาที่ใครจะเดินชนใคร
เห็นว่าคนภายใต้จะเดินถูกหรือผิดทางยังไง
มองให้เห็นว่าถ้าเราและทีมเดินทางนี้ไปเรื่อยๆ แล้วจะไปเจออะไร

เราจะได้ตัดสินใจได้ถูก
ปรับแผนได้ทัน
ป้องกันได้ครบถ้วน

บางทีคนที่อยู่ข้างบน ก็ต้องทำอะไรบางอย่างที่เราไม่เข้าใจ
เพื่อการดูแลและปกป้องคนภายใต้อย่างครบถ้วน
หากเราเองมองแค่ข้างหน้า ทางของตัวเราคนเดียว ไม่ได้เห็นคนอื่นที่อยู่ในถนนสายเดียวกัน
ไม่ได้เห็นว่าอีก 1 กิโลเมตรจะเป็นอะไร
แล้วยังเชื่อตัวเองมากกว่าเชื่อคนที่มองอยู่ข้างบน
อย่างนี้จะไปรอดไหมล่ะเนี่ย

ใครอยากเป็นนก คงยังไม่ต้องหัดบิน
หัดมองมุมเดียวกับนกให้ได้ก่อน
ค่อยเป็นค่อยไปดีกว่านะ
นางนวลเอ๋ย

24.7.51

.... Thanks for Your blessing and sorry for my silly ....

-_-

อย่างที่บอกไว้ว่า
มีเรื่องกลับใจเพียบ!!

ตลอดเวลาที่เห็นสิ่งดี ดี ดี ดี และ ดี มากมายในชีวิต
ก็เป็นตลอดเวลาที่ต้องเปลี่ยน เปลี่ยน และเปลี่ยนอะไรมากมายในชีวิตเช่นกัน

ช่วงนี้เป็นช่วงที่เกิดเรื่องเล็กๆ น้อยๆ แต่น่ารำคาญใจได้ตลอดเวลา
ไม่ได้รำคาญคนอื่น
แต่รำคาญตัวเอง

ที่หลายๆ ทีก็พูดในสิ่งที่ไม่ควรพูด
หลายๆ ที คิดในสิ่งที่ไม่ควรคิด
มีงานหลุดตั้งหลายอย่าง (ที่ไม่มีใครรู้ว่าหลุด ทำและรู้อยู่คนเดียว)
หลายๆ ครั้งก็ไม่รอบคอบ
คิดช้าและคิดน้อย
ไม่คิดเผื่อคนอื่น
ไม่ดูแลความเรียบร้อยของหลายๆ อย่างที่ต้องดู

เอ่อ.......

อะไรก็ไม่รู้ เยอะแยะไปหมดเลย

รู้สึกไม่ค่อยดี...
เล็กๆ...



ก็รู้สึกไม่ดีเยอะเหมือนกันแหละ T_T


แต่ก็นะ
คนที่รู้ตัวว่าป่วย... ก็จะไปหาหมอให้รักษา
คนที่รู้ตัวว่าตัวเองผิดพลาดเรื่องอะไร...
ก็จะหาวิธีการเปลี่ยนแปลงตัวเองให้ไม่ผิดพลาดเรื่องเดิมๆ

อาจจะดีก็ได้
เราอาจจะไม่ได้แย่มากขึ้นเรื่อยๆ
แต่เราอาจจะกำลังรู้ตัวมากขึ้นเรื่อยๆ ว่าเราแย่เรื่องอะไร
เพื่อที่เราจะได้ดีขึ้นเรื่อยๆ
เป็นที่พึ่ง ดูแลช่วยเหลือคนอื่นได้มากขึ้นเรื่อยๆ

ถ้าหากว่าเรามีชีวิตเล็กๆ ที่รองรับได้แค่บางเรื่อง
เพราะเราไม่ยอมเปลี่ยนนิสัยบางอย่างเพื่อคนอื่น...

สิ่งมหัศจรรย์บางอย่างก็จะไม่เกิดขึ้นในชีวิตของเรา
(ถ้าไม่รู้ สิ่งมหัศจรรย์เกิดขึ้นเสมอบนโลกใบนี้ ขึ้นอยู่กับว่าคุณมองเห็นมันไหม)

ขนาดเป็นแบบนี้ -_-"
ยังมีอะไรดีๆ เกิดขึ้นกับชีวิตตั้งเยอะ มาก มาก มาก

โอย เป็นลูกพระเจ้านี่มันดีจริงๆ
(วงเล็บอีกครั้ง แม้ว่าไอ้ลูกคนนี้จะไม่ค่อยดีเท่าไหร่ก็เหอะ)

ขอบคุณพระเจ้าสำหรับการอวยพรทุกอย่างค่ะ

แล้วคราวหน้าจะมาเล่าเรื่องอาหารมื้อที่แพงที่สุดในชีวิตนะ
เป็นอีกหนึ่งสิ่งมหัศจรรย์

17.7.51

ดี......

วันนี้เป็นวันดีๆ อีกหนึ่งวัน
หลังจากที่ไม่ได้อัพเดทชีวิตใน blog มายาวนาน
(ปล่อยระเบิดเน่าๆ ทิ้งไว้หนึ่งข้อความตามอารมณ์)

ที่จริงวันดีๆ วันนี้ก็มีเรื่องที่ไม่ดีอยู่บ้าง
มาทำงานสาย
คุยงานกันไม่ลงตัว

.....
(พยายามนึกอยู่)
รอรถนาน
หิว


เอาเถอะ เรื่องแย่ๆ ถ้ามันจะหาให้มี มันก็มีอยู่แล้วล่ะ
เหมือนกับเวลาที่มองคนบางคน
ถ้าจะหากันแต่จุดเสีย หาเจอได้ไม่ยากแน่นอน
เพราะไม่มีใครสมบูรณ์ 100%

มาเล่าเรื่องดีๆ ของวันนี้ดีกว่า
ตอนเช้า ได้นอนยาวๆ เพราะวันหยุด รถไม่ติด
มีกับข้าวของมะวานให้กินก่อนออกจากบ้าน
ขึ้นรถมาก็ไม่ง่วงเลย ได้อ่านหนังสือและฟังเพลงตามต้องการ
ก็เลยไม่ต้องซื้ออะไรรองท้อง กินกาแฟตามใจปากสักมื้อ
...อร่อยมาก

เข้ามาที่ออฟฟิศ ได้พบปะพูดคุยเสวนา และนมัสการพระเจ้าสั้นๆ
พระเจ้าพูดด้วย...
ก็มีกำลังใจทำงานมากกว่าเดิมอีก 7 เท่า

ได้การ์ดวันเกิดคืนมา หลังจากที่หายและหลงลืมไปอยู่กะพี่นิกกว่าเดือน
อ่านแล้วก็มีกำลังใจ

รายการใหม่ที่ทำแล้วส่งให้พี่น้อง comment ก็มี feedback ที่ดี
งานต่างๆ ตาม list เสร็จเกือบครบ

สำคัญและดีมาก เรื่องนี้
รถของพี่เอ๋และพี่เพ็ญ กลับคืนมาได้อย่างปาฏิหาริย์
หลังจากที่โดนขโมยหายไปจากหน้าออฟฟิศเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว
หายไปพร้อมเทปรายการนิยมกล้อง ณ Trip ปักกิ่ง ที่มี connection และ sponsor เพียบ!!
....
กลับมาแล้ววววว
ดีใจกันทั้งออฟฟิศ

นั่งรถกลับบ้าน ผ่าน Oishi Express สาขาใหม่ เมเจอร์รัชโยธิน
(บอกพระเจ้าไปว่า อยากกินจัง อิอิ)
ถึงบ้านมีของเหลือจาก Pizza ให้กิน
แล้วก็มีคำชวนจากแม่ว่า
"พรุ่งนี้ไปกินโออิชิไหม"

ฟังแล้วอยากจะกรี๊ดออกมาด้วยความดีใจ
แม่น่ารักมาก และพระเจ้าก็น่ารักมากๆๆๆ

นี่เป็นเรื่องดีๆ ที่จับต้องได้
มีเรื่องดีๆ ที่เป็นเรื่องของความรู้สึก จับต้องไม่ได้ อีกเพียบ!!

ดีๆๆๆ

กลับมาดูรายการนิยมกล้องสัปดาห์นี้
ก็เห็นการพัฒนาที่ดี
ดูแล้วสนุกและภูมิใจไปด้วยเลย

ดีๆๆๆๆๆ

มีความสุขจังเลย
ขอบคุณพระเจ้าค่ะ

(blog ถัดไปจากนี้จะเขียนเรื่องกลับใจ T_T เป็นเหตุการณ์ก่อนเรื่องดีๆ นี่ล่ะค่ะ)

13.7.51

-- นาน ช้า ยาว ไกล เยอะ มากมาย -- มึน

2 วันที่ผ่านมา
เหมือนเป็นเวลาที่ยาวนานมากกก
ระยะทางยาวไกล กับอะไรมากมายเหลือเกิน

กลับมาสู่โลกแห่งความเป็นจริงเถอะท่าน
มีอีกมากมายคอยอยู่นะ

อยู่ดีๆ ก็เฉื่อยเหอะ
งง!!

11.7.51

-- นักบัญชี --

เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้คุยกับนัก (และนักเรียน) บัญชี
ไม่ได้คุยเรื่องเงิน แต่คุยเรื่องการคิด

......................................................................

ระบบการทำงานบัญชี เป็นระบบที่เต็มไปด้วยตรรกะตัวเลข
ผิดหนึ่งจุด ทำให้ผิดทั้งกระบวนการ
เวลาตรวจสอบ ต้องตรวจสอบเป็นจุดๆ

เป็นการทำงานที่ต้องการความถูกต้อง 100%

คนที่จัดการบัญชีต้องเป็นคนที่ละเอียด ชัดเจน ตรงไปตรงมา

เรียกว่าเป็นระบบที่ดีและเป็นคนทีสุดยอดทีเดียว

...................................................................

สำหรับการจัดการเรื่องอื่นๆ ของชีวิต
ที่ดูเผินๆ เหมือนจะละเอียดน้อยกว่า ยุ่งยากน้อยกว่า

กลับใช้ระบบการคิดแบบนักบัญชีมาจัดการไม่ได้

เพราะมันมีเรื่องของคน, สภาพแวดล้อม, เวลา, accident และเหตุการณ์อื่นๆๆ
ซึ่งล้วนแล้วแต่เป็นปัจจัยที่กำหนดความผิดหรือถูก ใช่หรือไม่ใช่ ได้ยาก...มาก

ไม่ละเอียด ไม่ยุ่งยากจุกจิก...
แต่ละเอียดอ่อน

ทุมพร น้องสาวที่น่ารัก ถามว่า
"ทุมพรเรียนบัญชีมา ก็เป็นงานที่เป็นระบบ มันน่าจะทำให้คิดมีระบบนะ"

ระบบการทำงานบัญชี ถูกคิดมาเพื่อทำงานบัญชีอย่างเจาะจง
เหมือนระบบของการทำงานสายพานในโรงงานน้ำปลา
เป็นระบบแก้ปัญหาเฉพาะจุด ปัจจัยเงื่อนไขชัดเจน

...............................................................

ข่าวดี!!

มีระบบการคิดที่ดีที่สุดอยู่ในโลกใบนี้ ซึ่งใช้ควบคู่กับหลักคิดบางอย่างที่ชัดเจนแน่นอน
คิดได้ครอบคลุมทุกเรื่อง
แก้ไขได้ทุกปัญหา
จัดการได้ทั้งงานกว้างและงานแคบๆ
ปัจจัยเกี่ยวข้องจะมากจะน้อย ก็พอจะวิเคราะห์ได้

ก็ยังไม่รู้นะ ว่าจะคิดให้ได้เป็นระบบแบบนี้ ต้องทำยังไง

นึกได้แค่ 2 อย่าง

อย่างแรก อย่าเอาอารมณ์ความรู้สึกของตัวเองเป็นศูนย์กลางในการคิด
อย่างที่สอง เข้าใจ รู้จัก และเห็นคุณค่าทรัพยากรที่เกี่ยวข้องทุกชนิด

ต้องกลับบ้านแล้วล่ะ
สู้ๆ กับทุกเรื่องนะ
ชาวโลก

5.7.51

ด้าน >> มุม

ช่วงนี้เป็นช่วงที่พระเจ้ากำลังสอนให้เปิดมุมมองของตัวเองให้กว้างขึ้น

คำว่ามองต่างมุม
ถ้าหากเข้าใจและจัดการมันได้อย่างถูกต้อง
การมองต่างมุมจะเกิดประโยชน์ได้กว่า 8 เท่า
(เกณฑ์ในการวัดเป็นเรื่องของความรู้สึกค่ะ อิอิ)

เมื่อวันก่อน อ่านพระคัมภีร์ที่พูดถึงอิสราเอล 12 คน
ที่ไปสอดแนมเมืองคานาอัน...

10 คน บอกว่าเมืองนี้ดีมาก แต่น่ากลัวเกินไป
2 คน บอกว่าเมืองนี้น่ากลัว แต่ดีมาก น่าจะบุกไป

10 คนแรกไม่ได้เข้าเมือง (คิดแง่ลบ พระเจ้าไม่ยอม)
2 คนหลัง ได้ร้บการอวยพรมหาศาลถึงลูกหลาน

อันนี้เป็นเรื่องการมองแง่บวกหรือลบ
ซึ่งแต่ละคนที่ไป ก็ไปพร้อมกัน แต่ดันมองไม่เหมือนกันซะนี่

+++++++++++++++++++++++++++++++++++

วันใกล้ๆ กัน
คุยปรึกษากับพี่นิก พี่สาวคนสวย เรื่องการทำ agenda การประชุม
ประเด็นอยู่ที่ว่า พี่นิกอยากให้มีหัวข้อการประชุมแยกย่อยให้ครบ
ไอ้เราก็คิดว่า การมีหัวข้อมันไม่จำเป็น เพราะเรื่องที่คุยกันหนึ่งเรื่อง
มันก็คลุมประเด็นย่อยครบอยู่แล้ว

เถียงกันตั้งนาน
บทสรุปคือ จัดเรื่องที่คุยให้เป็นหมวดหมู่
ใส่หัวข้อเพื่อให้รู้ว่าเป็นงานหลักของด้านไหน

จบ

ความคิดตรงกัน แต่ดันคุยเหมือนคนละเรื่อง

++++++++++++++++++++++++

ล่าสุด ไปสอนพี่คนหนึ่งทำตารางเวลา
แล้วพี่แกไม่ยอมทำ เพราะไม่มีเวลา และคิดว่าไม่จำเป็น

เถียงกันอยู่ตั้งนาน หน้าดำคร่ำเครียดใส่กันไปซะเยอะ
เราก็พยายามอธิบายเหตุผลร้อยแปดพันประการที่คุณควรจะทำ
อยากให้เห็นประโยชน์

สุดท้าย คุยกันไม่รู้เรื่องก็เลิกคุย
ไปปรึกษาพี่ชายที่น่ารักหนึ่งคน ว่าจะทำยังไงดี

เขาบอกว่า "ก็บอกไปสิ ว่าเป็นกฏของบริษัททีต้องทำ
ถ้าไม่ทำ ก็ไปคุยกับฝ่ายบุคคลเอง"

-_-"

งงไปพักนึง วิธีการนี้ดีที่สุดแล้วเหรอ มันจะเหมือนบังคับเขาไหม

แต่จะว่าไป เพราะเรามองไม่เหมือนเขา ยืนคนละจุด
คุยเท่าไหร่ก็ไม่รู้เรื่องนี่หว่า...
จัดการแบบนี้ท่าทางจะดีกว่าจริงๆ

++++++++++++++++++

หลายต่อหลายครั้ง
การมองคนละมุม ทำให้เราเหมือนอยู่คนละด้าน
อยู่คนฝ่าย

เรื่องที่เล่ามาทั้งหมด ไม่มีใครเป็นศัตรูกัน เรามีเส้นทางเส้นเดียวกัน
และไปด้วยกัน
แต่ว่าเวลาที่คุยหรือเถียงกัน...

บางที มันก็มีอารมณ์ของความอยู่คนละด้านจริงๆ
แบบนี้มันก็เหมือนไปคนละทาง...
สวนทาง
(นึกภาพตาม จะเข้าใจได้ชัดเจนขึ้น)

ในฐานะที่เราทำงานกับคนเยอะ
คงต้องเป็นผู้ใหญ่
จะรอให้ชาวบ้านทุกคนมาเห็นมุมเดียวกับเราหมดคงไม่ได้

และความช่างพูด ช่างอธิบายของเรา
(ด้วยความมุ่งมั่น อยากให้ทุกคนเข้าใจเหมือนกัน)
อาจจะใช้ไม่ได้ดีเสมอไป

อาจเสียเวลา เมื่อยปาก
แต่ไม่เกิดความเข้าใจใดๆ เลย
แถมยังจะเกิดความรู้สึกคนละด้านอีกต่างหาก

ทั้งนี้ ไม่ใช่ว่าเราอยู่คนละด้าน
เพียงแต่เราอยู่คนละมุมเท่านั้นเอง

พระเจ้าคะ
ขอให้หมี่มองโลกและมองทุกอย่างได้ทุกมุมนะคะ

จะได้เข้าใจและช่วยคนอื่นๆ ที่มองในมุมอื่นๆ ได้มากขึ้น
ขอบคุณพระเจ้าสำหรับการเรียนรู้ค่ะ

>_< ยาวเหอะ

3.7.51

- - จังหวะ - -

จำไม่ได้ว่าเคยเห็น blog ของใครสักคน พูดถึงเรื่อง "จังหวะ"
จังหวะกลอง จังหวะหัวใจ
จังหวะชีวิต

ดูเหมือนอะไรอะไรก็ควรจะมีจังหวะ
จังหวะที่ว่า ไม่ใช่จะเป็นจังหวะอะไรก็ได้
แต่เป็นจังหวะที่สม่ำเสมอ มีทิศทาง ที่มาที่ไป

การมีจังหวะแบบนี้
...ทำให้ไม่เกิดความสับสนมึนงง
...ทำให้ไพเราะและน่าฟัง
...ทำให้รู้ว่าอะไรๆ ยังปกติดี
...ทำให้รู้ว่า สิ่งที่กำลังจะเข้ามา เป็นจังหวะเดียวกับเราไหม

จังหวะกลองแบบ R&B ก็ไม่เหมือนจังหวะกลองแบบ Rock...
คงแล้วแต่คนจะชอบ

จังหวะหัวใจของแต่ละคนก็ไม่เหมือนกัน
เรื่องนี้เป็นเรื่องควบคุมลำบาก...

แล้วแต่ละคนก็จะมีจังหวะชีวิตที่แตกต่างกัน

ซึ่งถ้าจูนจังหวะให้ตรงกันได้...
การเดินร่วมทางกันก็คงจะง่ายขึ้นเยอะ


บางเวลา จังหวะชีวิตของเราอาจจะช้า...down...deep
แต่ในเวลาเดียวกัน คนบางคน อาจจะมีจังหวะที่ตื่นเต้น สนุกสนาน

ถ้าได้มาคุยกันมันจะเข้าใจกันไหม -_-"

วันนี้
พี่นิยมสอนว่า เวลาขยับตัวหรือทำอะไรก็ตาม ต้องมีจังหวะ

(อันนี้เพิ่มเองค่ะ) เราจะได้รู้ว่า เราจะไปทางไหน ทำอะไรต่อ ได้อย่างไม่ติดขัด
มีจังหวะในการคิด มีการจังหวะในการพูด
มีจังหวะในการทำอะไรต่างๆ ที่เหมาะกับเรา...

ที่อาจจะต้องหาให้เจอโดยเร็ว

ถ้าไม่รู้จักจังหวะของตัวเอง คงจูนกับคนอื่นยาก

ถ้าไม่รู้ว่าพระเจ้าสร้างจังหวะแบบไหนให้กับเรา
เราจะเดินและทำสิ่งต่างๆ อย่างดีตามแผนการที่พระเจ้าวางไว้ได้ไหมละเนี่ย

ไม่รู้เหมือนกัน
แต่รู้ว่า ที่ผ่านมาเป็นคนแม่นจังหวะเพลงมาก
(อาจจะไม่แม่นคีย์ -_-")

ถ้าจังหวะชีวิตเราแม่นด้วยก็น่าจะดีนะ

พระเจ้าช่วยหมี่จูนด้วยนะคะ