19.3.54

สิ่งที่หายไป

จากประสบการณ์อันแสนเจ็บปวดที่เกิดขึ้นด้วยความโง่และไร้สติของหมี่
ทำให้ได้บทเรียนมาหนึ่งข้อ

รถล้มครั้งนี้ฝากความอับอาย (ตัวเอง) และบาดแผลรอยใหญ่ที่แขนขาไว้
แถมรถยังมีรอยถลอกเต็มไปหมด
เป็นรอยถลอกที่คอยบาดข้อเท้าทุกครั้งที่เผลอไปโดน
คล้ายๆ กับอาการเจ็บแปลบที่หลายๆ คนมักจะเป็นหลังการบาดเจ็บครั้งใหญ่

สิ่งสำคัญที่ได้เรียนรู้ก็คือ ความเสียหายที่แย่ที่สุด ไม่ใช่โฉมของหมี่
ไม่ใช่สภาพหรือเครื่องของรถ
ไม่ใช่เงินค่ายาทาแผลหรือค่าซ่อมรถใดๆ
มันคือความมั่นใจที่ถูกทำลายอย่างไม่มีชิ้นดี

หมี่สังเกตตัวเอง ก่อนหน้านี้ จะขี่รถเร็วฉวัดเฉวียนยังไง ก็ยังไม่น่ากลัว
ออกจะสนุกสนานด้วยซ้ำ
แต่หลังรถล้มคราวนี้...
แค่ทางไม่เรียบหรือรถกระตุกเล็กน้อย ยังทำให้หมี่ใจหายวูบได้อย่างง่ายๆ

เคยได้ยินไหมคะที่เขาบอกว่า "ถ้ามีความมั่นใจ ทำอะไรก็สำเร็จ"
ตอนนี้รู้สึกได้เลยว่า ความกลัวที่มากกว่าเดิม เพิ่มโอกาสเสี่ยงให้รถล้มได้ง่ายขึ้น
เพราะมือที่จับแฮนด์รถ ไม่มีความมั่นคงอีกต่อไปแล้ว

เรื่องนี้ทำให้นึกถึงเรื่องอื่นๆ อีกหลายเรื่อง
ที่เหมือนจะไม่เกี่ยว แต่ก็เกี่ยว

เมื่อใครสักคนล้มเหลวหรือผิดหวัง
สิ่งที่สูญเสียมากที่สุด อาจไม่ใช่เงินทอง ไม่ใช่ตำแหน่งหน้าที่
ไม่ใช่เครดิตดีๆ ไม่ใช่ความสัมพันธ์
แต่เป็นความมั่นใจที่จะเริ่มต้นทำอะไรสักอย่างอีกครั้ง
และเมื่อไม่มีความมั่นใจ ไม่ว่าจะก้าวไปทางไหน ก็ยาก


"สิ่งที่หายไป มันไม่ใช่แค่ดอกไม้
แต่มันหมายความถึงบางสิ่งที่สำคัญ
สิ่งที่หายไปมันไม่ใช่แค่คำหวาน
แต่กับตัวฉันที่ว่างเปล่าที่เฝ้ารอ ก็ใจหายไปทั้งใจ"

ของที่มองเห็น มีเงินก็ซื้อได้ หาใหม่ไม่ยาก
แต่ความรู้สึกที่มองไม่เห็น ทำยังไงให้กลับมาเต็มได้เหมือนเดิม
ใครรู้บอกที

13.3.54

กว่าจะรู้

คุณเรียนรู้จัก "ความรู้สึก" ต่างๆ เป็นครั้งแรกเมื่อไหร่คะ

ตอนเด็กๆ หมี่ไม่รู้จักความรู้สึก "หิว"
คงเป็นเพราะแม่จับกินข้าวตรงเวลาเป๊ะตลอด
รู้จักการหิวครั้งแรก น่าจะตอนประถมที่เราต้องรอเวลากินข้าว
จำได้ว่า เหมือนกับรู้สึกอะไรบางอย่างที่ท้อง
พอกินข้าวแล้วหาย ก็เลยอ๋อ
นี่ล่ะมั้ง ที่เรียกว่า หิว

เคยเห็นในละคร มีตัวละครที่เสียใจจนกินข้าวไม่ลง
สงสัยมาหลายปี เพราะไม่เคยมีความรู้สึกแบบนั้น
ปรากฏว่า วันหนึ่ง เจอแฟนเก่าไปกับแฟนใหม่
ช็อคไปวันกว่าๆ ไม่หิวเลยสักนิด ผิดวิสัย
ก็เลยเข้าใจแล้วว่า อาการกินข้าวไม่ลง เป็นยังไง

ใครๆ ก็รู้แม่รักลูกยิ่งกว่าชีวิต
แต่เอาเข้าจริงกว่าจะสำนึกได้ว่าแม่รักเราแค่ไหน
ก็ดื้อด้านขัดคำสั่งเอารถไปต่างจังหวัดให้รถมันคว่ำหวิดตาย
พอได้ยินเสียงแม่ร้องไห้ ก็เก็ททันที
เสียดเข้าไปในใจ

อันนี้เป็นเรื่องของเพื่อนฝูง
เยอะนักเชียว ประเภทจิกแฟน หวงแฟน ทะเลาะกันค่ำเช้า
ไอ้เราเป็นผู้หญิงขี้วีน ไม่เคยยอมใคร เลยไม่ต้องจิกใคร
ไม่ค่อยเข้าใจด้วยว่าจะไปจิกทำไมให้เค้ารำคาญ
สุดท้าย...
ไม่ต้องบอกใช่มั้ยคะ ว่าหมี่ก็เจอเข้าจนได้
รำคาญตัวเองมาก แต่ก็ยังไปจิกเขาอยู่ดี

เรื่องร้องไห้หยุดไม่ได้ก็เหมือนกัน
ใช้ชีวิตมา 20 กว่าปี ไม่เคยเป็น
ตอนนี้รู้แล้วว่าดราม่าแบบนั้นแม่งโคตรทรมาน

เวลาคนพูดว่าเกลียดตัวเอง
คนเซลฟ์สูงแบบหมี่ไม่ค่อยจะอินด้วยเท่าไหร่
แต่พอนานเข้า เจ็บจากความเป็นตัวเองบ่อยเข้า
แล้วไม่หายสักที ทำไงก็ไม่หาย
เลยเริ่มเกลียดตัวเองมากขึ้นเรื่อยๆ เหมือนกัน


วันนี้ไปอ่างแก้ว นั่งอ่านหนังสือ
เจอนกสองตัวหน้าตาเหมือนกัน เดินอยู่ข้างๆ กัน
ท่าเดียวกัน จังหวะเดียวกัน
ตลกดี ก็เลยนั่งจ้องมัน

ปรากฏว่า สักพัก ตัวนึงก็กระโดดแซงหน้า แล้วแยกไปอีกทาง
เลี้ยวไปเลี้ยวมา แล้วก็เดินวนมาใกล้กันเหมือนเดิม
อีกแป๊บก็เดินแยกกันอ้อมต้นไม้ แยกซ้ายขวาไปไกล
จังหวะการเดินก็เหมือนกันบ้าง ไม่เหมือนบ้าง
แต่อีกแป๊บก็เดินมาใกล้ แล้วไปด้วยกันเหมือนเดิม

ตอนจบฉากนี้ นกสองตัวยืนริมอ่างแก้วอยู่ข้างๆ กัน

หมี่ไม่รู้ว่าคุณรู้จัก "ความรู้สึก" เหล่านี้กันตอนไหน
เจอเองกับตัว หรือฟังเขาเล่ามา
แต่หมี่เชื่อว่า ชีวิตของคนทุกคนมีเรื่องให้เรียนรู้เหมือนๆ กันนั่นแหละ
ความสุข ความทุกข์ รอยยิ้ม น้ำตา ความเจ็บปวดทั้งร่างกายและหัวใจ
ความล้มเหลว ความสำเร็จ ความเข้าใจโลก ความจริงของชีวิต
จนกระทั่งความตาย

เพียงแต่เส้นทาง จังหวะ วิธีการ คงแตกต่างกันไป
บางคนอาจจะแตกต่างจากเรามากๆๆๆ
แต่นั่นไม่ได้หมายความว่า เราจะไม่มีโอกาสเดินด้วยกันในบางเวลา
และไม่ได้หมายความว่า
สุดท้าย เราจะไม่ได้ยืนอยู่ข้างกัน


ปล. บล็อคนี้ขออุทิศให้ความเจ็บปวดทั้งปวงที่ได้รู้จักตลอดปีที่ผ่านมา
และน้ำตาที่ยังไม่หยุดไหล
ได้แต่หวังว่าตอนจบจะสวยงามเหมือนฉากวันนี้นะคะ

4.3.54

3 มิติ

ทำลายสถิติอีกแล้ว
เดือนที่แล้วไม่ได้เขียน Blog เลยสักเรื่องเดียว
ดูเหมือนว่าชีวิตช่วงนี้ไม่มีแรงบันดาลใจ
มีคนก็บอกว่า หมี่ชิลจนติดนิสัยขี้เกียจแล้วนะ
จริงเหรอ!!

เดือนที่แล้วลองใช้ชีวิตอีกแบบ
ไม่ติดอินเตอร์เน็ตในห้อง
สนุกดีนะ เพราะทุกๆ เสาร์อาทิตย์จะมีคนมาเยี่ยม มีเพื่อนไปเที่ยว
มีสัปดาห์นึงกลับลงไปกรุงเทพ คือ สัปดาห์วาเลนไทน์

ครั้งนี้ ขออนุญาตเขียนเรื่องความรัก (นานๆ จะน้ำเน่าทีนะ)
เป็นเรื่องหนึ่งที่ได้เรียนรู้ เมื่ออยู่ระยะไกล

ปกติหมี่เป็นคนไม่ค่อยแสดงออกว่ารัก
ไม่ตาม ไม่ง้อ ห้ามยอมอีกฝ่ายมากกว่า
คือดูเหมือนตัวเองจะมีทัศนคติโดยไม่รู้ตัวว่า ถ้ารักมาก เดี๋ยวแพ้
โดยเฉพาะหากเป็นความรักที่ต้องได้รับการตอบสนองคืน ยิ่งต้องไม่แพ้

สถานการณ์เป็นแบบนั้นมาตลอด วางตำแหน่งเป็นผู้ชนะได้เสมอๆ
ซึ่งมันก็ดีนะ เพราะฝ่ายที่ไม่ต้องวิ่งตามก็ไม่เหนื่อย
วันไหนที่เจ็บ ก็ฟื้นตัวเร็ว เพราะคุ้นเคยกับการเป็นผู้ชนะ

แต่ไม่รู้ว่าพอโตแล้วเจอกับอะไรเยอะขึ้นรึเปล่า เจอกับความรู้สึกแย่ๆ หลายอย่าง
ทำให้ความกลัวมันก็มากขึ้นตามไปด้วย
อยู่ดีๆ ก็กลัวการแพ้ขึ้นมาซะอย่างนั้น

ปัญหาของมันคือ เวลาเรากลัวการแพ้ เรามักมีแนวโน้มที่จะแพ้มากขึ้น
เพราะเราจะขาดความมั่นใจ
และเวลาเราขาดความมั่นใจ เราจะเรียกร้องความมั่นใจจากคนอื่น
ทำให้เรางี่เง่า ไร้เหตุผล จนทำตัวน่าเบื่ออย่างที่ไม่เคยเป็น
สุดท้ายก็โดนทิ้ง แพ้ราบคาบ

จริงๆ หมี่เชื่อนะว่าสิ่งที่ทำให้ชนะ ก็คือความมั่นใจแบบไม่กลัวแพ้
ซึ่งเกิดมาจากตัวเอง ทำเอง เรียกร้องจากคนอื่นไม่ได้

เอาเถอะ
ยังไงความรักและความสัมพันธ์ก็ไม่ใช่เรื่องการแพ้หรือชนะ
ไม่ใช่ใครเจ็บมากกว่าใครหรือใครทิ้งใครก่อน

หมี่ลองถามความรู้สึกของตัวเองในเวลาต่างๆ
เวลาที่อีกฝ่ายรักเรามากๆ ดูแลเราดีๆ
เราก็มีความสุขมาก ทำให้อยากอยู่กับเขามากขึ้น
อีกฝ่ายก็คงเหมือนกัน
เรารักเขามาก เขาก็ต้องมีความสุข อยากอยู่กับเราไปนานๆ

ไม่ชอบให้เขาจิกตัวเอง ไม่อยากรู้สึกว่าเขาไม่เชื่อใจ
ก็อย่าไปทำ เพราะเขาคงไม่ชอบเหมือนกัน

เวลาเขายอม เรารู้สึกว่าน่ารัก
เราก็น่าจะยอมบ้าง เขาจะได้รู้สึกว่าเราน่ารัก

ความรักเป็นเรื่องของการต่างตอบแทนรึเปล่า
เป็นกฏธรรมชาติที่พระเจ้าตั้งไว้ตั้งแต่แรกแล้วล่ะมั้ง
พระเจ้ารักเรา ก็ดีกับเรา เราเลยรักพระเจ้า
แล้วถ้าพระเจ้ายังดีกับหมี่ไปเรื่อยๆ
หมี่ก็รักพระเจ้าไปเรื่อยๆ

อย่างนี้ถ้าคุณดีกับเราไปเรื่อยๆ เราดีกับคุณไปเรื่อยๆ
ก็ไม่ต้องเลิกกันแล้วสิ
ไม่มีใครแพ้สักคน
ดีจัง...


Paradox - 3มิติ


แด่เธอ ผู้เป็นทุกอย่าง จะมีฉันรอคอยเดินร่วมทาง ฝันคงไม่ไกล

แต่เธอ จืดจางหายเลือนลางเปลี่ยนไป เส้นทางฝันของฉันจบลง นานแม้จะนาน

เฝ้ารอ..คอยอยู่ อาจจะเป็นแค่ฝัน วัน..ที่ดีกว่า เมื่อเธอกลับมาที่เดิม

จะมีความรัก ทุกๆอย่าง จะมีความฝันที่ปลายทาง

จะมีเราสอง เดินร่วมทาง

แด่เธอ ผู้ทำให้รักมีมิติ จะทำให้ฉันมีปลายทาง จะทำให้รักทุกๆอย่าง

แต่เธอ ขาดสิ่งเดียว ฉันรออยู่ฝันยังห่าง นานแม้จะนาน

แด่เธอ จะมีความรัก ทุกๆอย่าง จะมีความฝันที่ปลายทาง จะมีเราสอง เดินร่วมทาง

แด่เธอ ผู้ทำให้รักมีมิติ จะทำให้ฉันมีปลายทาง

ผู้ทำให้รักฉันมีจริง