20.2.52

บทเรียน

วันนี้ได้เจอกับเรื่อง shock หนึ่งเรื่อง
เป็นความ shock ที่ปนมากับความเสียใจ ความอาย สำนึกผิด และเรียนรู้...

เคยมีน้องคนหนึ่งมาปรึกษาเรื่องบางเรื่อง
แล้วเราก็ให้คำปรึกษาไปตามความคิด ความเห็นด้วยของเรา
ซึ่งมีหลายคน ไม่เห็นด้วยกับการตัดสินใจของเขา

ความรู้สึกที่เกิดขึ้น ณ เวลานั้นคือไม่เข้าใจ
รู้สึกไม่ดีกับบรรดาคนที่ไม่เห็นด้วยนั้น
บริบทรอบข้างและหลักการเหตุผลทั้งหมด
ยังไงก็ไม่ใช่คำตอบแบบนั้น

ความจริงเปิดเผย
ข้อมูลบางอย่างที่เราไม่รู้ ก็ได้รู้
เข้าใจเหตุผลของการไม่เห็นด้วย
ได้รับรู้ว่า ความมั่นใจของเราและการสนับสนุนน้องคนนั้น...

สร้างปัญหาให้กับคนอื่นอย่างมากมาย

มีการพยายามสื่อสาร พยายามให้ข้อมูลอีกด้านเท่าที่ให้ได้
แต่ด้วยความเชื่อและความมั่นใจของเรา...
ก็ทำให้ความสามารถในการได้ยินพังทลาย
ทิ้งเวลาล่วงเลยมายาวนาน โดยที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลย

วันนี้พระเจ้าคงอยากจะให้ฉลาดขึ้นแล้วล่ะ
แต่ก่อนจะฉลาด ก็ต้องก้าวข้ามผ่านความโง่ซะก่อน

หนังเรื่อง สามก๊ก มีคำพูดที่บอกว่า
"เรื่องโง่น่ะ เรื่องเล็ก แต่อย่าเอาความโง่ไปแปดเปื้อนคนอื่น"
โอย เอาความโง่ไปแปดเปื้อนใครบ้างแล้วล่ะเนี่ย
เวลาที่รู้ว่าตัวเองโง่และหยิ่งในสายตาคนอื่น มันน่าอายมากเลยนะ
แล้วเวลาที่รู้ว่าตัวเองโง่และหยิ่งจนทำร้ายคนอื่น มันก็เจ็บปวดมากด้วย

สิ่งที่กำลังคิดว่ามันเป็นจุดอ่อนของเรา
มันเป็นจุดอ่อนที่แข็งแรงแน่นหนามากทีเดียว

พระเจ้าคะ จะเปลี่ยนมันยังไงดี
แล้วเมื่อไหร่จะหายเจ็บ แล้วก็หายอาย
ทำยังไงดีคะ

17.2.52

หนึ่งวัน=หนึ่งนาที

มีคนบอกว่า ไอสไตน์ ให้ทฤษฎีเกี่ยวกับเวลาเอาไว้หนึ่งอย่าง
"หนึ่งวันที่อยู่กับคนที่เรารัก จะรู้สึกสั้นเหมือนหนึ่งนาที
แต่หนึ่งนาที ที่อยู่กับคนที่เกลียด จะยาวนานเหมือนหนึ่งวัน"
อันนี้ไม่รู้ข้อมูลจริงเท็จแค่ไหน ไอสไตน์พูดจริงหรือไม่

อย่างไรก็ตาม หลังจากใช้ชีวิตมากว่า 25 ปี
พิสูจน์ (ด้วยตนเอง) แล้วว่า หลักการนี้เป็นจริงในชีวิต

ในพระคัมภีร์สดุดี ดาวิดพูดว่า "หนึ่งวันในพระนิเวศของพระเจ้า ก็ดีกว่าพันวันในที่อื่น"
ประมาณว่า มีเวลาอยู่ใกล้ๆ พระเจ้าแม้เพียงสักแป๊บ ก็ดีกว่ามีเวลาเยอะๆ อยู่ที่อื่น
หลักการคล้ายๆ กัน

ช่วงเวลาแห่งความสุข อยากได้ไว้นานๆ แต่มักจะรู้สึกแป๊บเดียว
ช่วงเวลาเหน็ดเหนื่อยแสนสาหัสของชีวิต
นับวันเช้าเย็น รอจะให้มันผ่านไป

หมี่ว่า กลไกของชีวิต เราต้องเจอกับเรื่องที่ชอบบ้าง ไม่ชอบบ้าง
สุขบ้าง ทุกข์บ้าง เป็นวาระและเวลาเพื่อการเรียนรู้
แต่ว่า มนุษย์ ก็จะแสวงหาการเติมเต็มให้กับตัวอยู่เสมอแหละ

กลไกของหมี่เอง ถ้าหากว่าเจอกับความกดดัน เครียด หาสาเหตุไม่ได้
ก็มักจะหาเรื่องและเวลาคลายทุกข์ให้ตัวเองอยู่เรื่อยๆ
เช่น นั่งรถเมล์ฟังเพลง กินเค้กอร่อยๆ
อะไรก็ได้ที่ไม่ต้องใช้สมอง

แต่กลไกที่พระเจ้าสร้างให้มนุษย์เจ๋งมาก
คือ ถ้าหากรับรู้และมั่นใจได้ว่ามีพระเจ้าอยู่ข้างๆ
หนึ่งวัน ก็จะกลายเป็นหนึ่งนาที
ไม่นาน ความเหนื่อยยากที่เรามีก็จะผ่านไป

เริ่มติดความรู้สึกแบบนี้ซะแล้ว
ช่วงไหนที่ไม่ค่อยมั่นใจว่าพระเจ้าอยู่ด้วย มันค่อนข้างเหือดแห้งนะ
อะไรมาเติมก็ไม่ค่อยเต็มเท่าไหร่

คิดว่าน่าจะเป็นสิ่งดี
เพราะเวลาพระเจ้าเติมชีวิตเราให้เต็ม มันจะมีพลังชีวิต ส่งผ่านออกมา
ช่วยเราในการทำนั้นทำนี้ ผ่านปัญหาสถานการณ์ได้อย่างดี มั่นคง

ในเวลาที่โลกใบนี้ไม่ค่อยน่าอยู่เท่าไหร่
คงจะช่วยให้อยู่และผ่านไปได้แบบไม่โหดร้ายเกินไปนัก

นิรันดร์กาลในนรก ไม่มีแสง ไม่มีพลัง ไม่มีความรัก ไม่มีความอบอุ่น
แล้วก็ยาวนานไปเรื่อยๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
โอย ไม่อยากจะนึก
คิดแล้วทรมานจัง

14.2.52

Happy Valentine's Day

เวลาคิดว่าใกล้ถึงวันวาเลนไทน์แล้ว ก็จะนึกถึงเหตุการณ์รถคว่ำทุกที
ยิ่งปีนี้ peak กว่าปีที่แล้วเยอะ
เพราะต้องตะบี้ตะบันหาเอกสารทำเรื่องยื่นฟ้องบริษัทสัมพันธ์
ถ้ายื่นไม่ทันวันวาเลนไทน์นี้ อาจจะชวดเงิน 310,000 ได้

วาเลนไทน์ไม่ได้ไปไหนกับใครหรอกค่ะ
ตื่นเที่ยง เพราะเมื่อวานสมบุกสมบันไปเยอะ
เมื่อวานจัดงานปาร์ตี้วาเลนไทน์กับเพื่อนๆ แถวๆ สีลม
บรรยากาศอย่างดีเลย ประทับใจ


Happy Valentine's Day แด่เพื่อนร่วมโลกทุกๆ คน
ขอให้ความรักเป็นสิ่งสวยงามของคุณนะคะ

12.2.52

การเดินทาง

วันก่อนฟังเพลงนี้ของเชษฐา ยารสเอก
เพื่อนทอยส่งมาให้ฟัง...เก่าเชียว

การเดินทางยาวไกลที่เราตามหา...ใครบางคน...นั้นได้สิ้นสุดลง
เมื่อได้มาพบเธอ
กับทุกความฝันที่เคยมี
จะวางตรงนี้ไว้คู่กับเธอ
และพร้อมจะทำเพื่อเธอ...
เพื่อเธอคนนี้ที่ฉันรอคอย

วันนี้เป็นวันแห่งการเดินทาง
ถ้ามี Google Earth ก็อยากจะทำเส้นทางให้เห็นกันเลยทีเดียว

เริ่มต้นจากพระราม 5
ไปลาดพร้าว 71
ต่อด้วยแยกสุทธิสาร
เซ็นทรัลเวิล์ด ราชเทวี
นั่งวินกลับมาที่โรงพยาบาลยันฮี พระราม 7 อีกครั้ง
กลับไปลาดพร้าว 26 ใหม่
และค่อยได้เวลากลับบ้าน พระราม 5

ได้นั่งโดยสารเกือบครบประเภทเลย
รถยนต์คนอื่น รถเมล์ปรับอากาศ รถเมล์ไม่ปรับอากาศ ทั้งฟรี และไม่ฟรี รถมอเตอร์ไซค์
เหลือตุ๊กๆ กะสองแถว
ขำดี ระหว่างเดินทางก็ประสานงานเป็นสิบๆ เรื่องเลย

เหนื่อยนะนั่น

Partner ที่ไปเจอวันนี้ 2 คน ทักเหมือนกันว่า อายุยังน้อยแล้วหน้าก็เด็กกว่าอายุจริง >_< จริงๆ นะ
แต่พี่ศรัณย์บอกว่า พอผ่านอายุ 25 เราจะเริ่มเอากำลังและทรัพยากรเก่าๆ ในร่างกายมาใช้
ไม่มีเติมใหม่แล้ว...

ชีวิตที่ผ่านๆ มา นั่งอยู่แต่หน้าคอมพิวเตอร์
พอเริ่มออกเดินทางเหมือนสมัยก่อนๆ บ้างก็สนุกดี
แต่หมดแรงเร็วเหลือเกิน

สงสัยของเก่าเราจะเริ่มหมดแล้วเนี่ย
โอ้ พระเจ้าคะ ช่วยด้วยยยยยยยยย

6.2.52

ไฟดับ -_-"

เป็นเหตุการณ์ที่ผ่านมากว่าสัปดาห์ละ
แต่จำเป็นต้องบันทึกไว้ในความทรงจำ
ประกอบกับเรื่องราวมากมายที่ต้อง "เคลียร์"
ก็เลยยิ่งต้องเขียนไว้เพื่อเป็นบทเรียนสอนใจ

วันอังคารที่ 27 มกราคม เวลาประมาณ 2 ทุ่ม
มีโทรศัพท์เข้ามาระหว่างการคุยงาน

แม่โทรมาถามว่า "กินอะไรไหม"
ขอบคุณพระเจ้า ได้กินยำอร่อยแน่ คืนนี้
อีกสักพัก ประมาณ 15 นาที น้องชายโทรมาอีกครั้ง
.
.
.
.
.
บ้านไฟดับ!!
ไม่ได้จ่ายค่าไฟมา 3 เดือน เป็นเงิน 4,000 กว่าบาท
ปัญหาไม่ใช่ไม่มีเงิน
แต่ปัญหาคือ ไม่มีใครดูบิล ไม่มีใครเช็คความเรียบร้อยในการตัดบัญชี
ไม่มีใครสนใจ...
พ่อกับแม่มีปากเสียงผ่านลูก เพราะว่าคนหนึ่งไม่ดูบิล อีกคนหนึ่งก็ไปตัดบัญชีไม่เรียบร้อย
อยากจะร้องไห้ -_-"


เป็นอีกหนึ่งบรรยากาศ กินยำวุ้นเส้นกับข้าวผัดใต้แสงเทียน
ขอบคุณพระเจ้า นอนระเบียง อากาศเย็นสบาย
แต่ยุงกัดจนแทบหลับไม่ได้
สงสัยต่อไปต้องจัด กย 15 เอาไว้สำรองละ
.
.
.
.
.

Internet ที่บ้านค่อนข้างช้า ก็เลยเปลี่ยน Hi Speed ของ True มาใช้ Broadband
จัดการอะไรให้มันดีขึ้นอีกสักอย่าง...

ปรากฏว่าค่าโทรศัพท์ที่บ้านค้างอยู่ 900 กว่าบาทอีกเช่นกัน
ใครจะจ่ายก็ไม่รู้ จะพ่อหรือจะแม่ก็ค้างมาเป็นเดือนละ
พรุ่งนี้โทรศัพท์จะตัด ต้องไปต่อ

อยากจะหยุดใช้ Internet ต้องเอาบัตรประชาชนเจ้าของหมายเลขไปยื่นด้วย
แล้วก็จ่ายเงินที่ค้างอีก 1200 บาทกว่า
Azzzzzzzzzz (เป็นเสียงอุทานที่ใช้อยู่ในปัจจุบันค่ะ)
ต้องขอพ่อแล้วล่ะสิเนี่ยยยย
.
.
.
.
.

วันนี้เดินทางไปศาลแพ่ง
ทำเรื่องยื่นคดีสัมพันธ์ประกันภัย เอาทุนประกัน 310,000 บาท
ถ้าไม่รีบทำภายใน Valentine นี้ ก็จะหมดอายุคดีความเพราะว่าครบ 2 ปีแล้ว

บัตรประชาชนแม่ ใบมอบอำนาจ ใบรับเช็ค ทะเบียนรถ
เอกสารมากมายเท่าที่มีก็พยายามเตรียมไป

แต่ว่ายังยื่นไม่ได้!
ต้องไปคัดลอกหนังสือนิติบุคคลของสัมพันธ์ที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ราคา 200 บาท
ต้องตามหลักฐานที่แสดงถึงเหตุการณ์รถคว่ำ เช่น กรมธรรม์ ใบแจ้งความ ใบแจ้งที่เกิดเหตุ
ต้องเขียนสำนวนคดีความของทั้งหมดตามข้อเท็จจริง หาพยานหลักฐานเท่าที่หาได้ทั้งหมดกลับมา

พอดีว่าให้สัมพันธ์ประกันภัยไปหมดแล้ว
ไม่ได้เก็บไว้ ไม่มีสำเนา
โฮ T_T
แทบไม่อยากเอาเงินคืนแล้ว
.
.
.
.

ถ้าทำเรื่องให้มันเสร็จๆ จบๆ ไปตั้งแต่ปีก่อน ก็ไม่ต้องมาเร่งเอาช่วงนี้ เครียดนะเนี่ย!
ถ้าตรวจสอบจดหมาย จัดระบบเอกสารดีๆ ก็คงไม่มีค้างค่าไฟ
ถ้าเคลียร์หนี้ internet ให้เร็วกว่านี้หน่อย ก็ไม่ต้องจ่ายเงินทีเยอะๆ

Azzzzzzzz


ขอบคุณพระเจ้าค่ะ
ได้บทเรียนทรงคุณค่า...

คงต้องโตเป็นผู้ใหญ่
ละเอียดรอบคอบ
และรับผิดชอบมากขึ้นนะ

1.2.52

เป้าหมาย >>>>>>>>>>

จะว่าไปแล้วก็เคยได้อ่านหนังสือหลายๆ ฉบับ และได้ฟังคำแนะนำจากหลายๆ คน
ว่าทำอะไร ควรตั้งเป้าหมาย
ชีวิตต้องมีเป้าหมาย ไม่งั้นจะไม่ประสบความสำเร็จ
เจอมาก็หลายปี แต่มาสำนึกสำเหนียกเอาจริงๆ ก็ไม่นานมานี้ถึงความสำคัญของมัน

รู้สึกว่า...
เราถูกสอนให้มีเป้าหมาย
แต่เราไม่ค่อยถูกสอนวิธีการตั้งเป้าหมายแบบสมดุลในความฝัน และความจริง
เราไม่ค่อยถูกสอนว่า เราวางเป้าหมายในชีวิตของเราได้เอง เพราะเราต้องรับผิดชอบมันเอง...

เราก็เลยมีเป้าหมายของตัวเองด้วยการเอาเป้าหมายมาจากคนอื่น
ให้คนอื่นตั้งเป้าหมายให้
หรือไม่ก็ตั้งเป้าหมายแบบ งงๆ
หรือสุดๆ ก็ไม่มีเป้าหมาย ใช้ชีวิตไปเรื่อยๆ และเรื่อยๆ...

โอ้ ชีวิตมันไร้ค่าขนาดดดด แล้วที่เห็นๆ มาหลายคนก็เป็นแบบนั้นจริงๆ
พระเจ้าอุตส่าห์สร้างสรรค์ปั้นแต่งมาอย่าง perfect
แถมพร้อมทุกเวลาในการเป็นที่ปรึกษาตลอดย่างก้าว

บางคนอาจจะไม่มั่นใจในสิ่งที่ตัวเองมีและเป็น
ก็เลยไม่กล้าตั้งเป้าหมายของตัวเอง
อาจจะกลัวไปไม่ถึง

บางคนอาจจะรอโอกาสและเวลา (คริสเตียนบางคนเรียกว่า การทรงนำ)
ถ้าโอกาสไม่เหมาะ ไม่ฉลุย ไม่เห็นทาง
ถือว่ายังไม่ใช่เวลาที่ดีในการกำหนดเป้าหมาย

ในทรรศนะที่หมี่ตกผลึกมาได้
การตั้งเป้าหมายทั้งระยะใกล้และไกล เป็นความรับผิดชอบของเราเอง
ที่ปรึกษาและผู้นำ มีหน้าที่ในการให้คำปรึกษาและนำให้ถูกต้อง
คนตัดสินใจคือเรา และคนที่รับผิดชอบกับผลเหล่านั้น คือเรา

พระเจ้าคือผู้ดูแลอยู่เคียงข้างเมื่อเรากำลังเดิน
นำหน้าเมื่อเราไม่เห็นทาง
และลากเรากลับ เมื่อเราหลง

ข้อพระคัมภีร์ในสดุดี 23:6 กล่าวว่า
"แน่ทีเดียว ที่ความดีและความรักจะติดตามข้าพเจ้าไป ตลอดวันคืนชีวิตของข้าพเจ้า"
ข้อพระคัมภีร์ในโยชูวา 1:9 กล่าวว่า
"เพราะว่าเจ้าไปในถิ่นฐานใด พระเยโฮวาห์พระเจ้าของเจ้าทรงสถิตกับเจ้า"
กำลังหมายถึงว่า คนของพระเจ้าไปไหน พระเจ้าอยู่ด้วย
ความรักและความดีงามของพระเจ้าตามเราไป ไม่ใช่สั่งให้เราไป
เราเลือกก่อน ใช่หรือไม่ใช่ พระเจ้าจะบอกเรา นำเรา และพาเราไปต่อเอง

หากเรากล้าคิด กล้าตั้งเป้าหมายชีวิตไกลๆ กล้าตัดสินใจ ด้วยสิ่งที่เรามี สิ่งที่เราเป็น และสิ่งที่เราฝัน
แบบนี้น่าจะเป็นการใช้ชีวิตที่เจ๋งกว่านะ
ก็เป้าหมายชีวิตและเส้นการเดินทางเป็นเรื่องซับซ้อน ละเอียดอ่อน และต้องค้นหา
ทำอะไรให้มันตื่นเต้นก็น่าจะดีกว่านี่นา