30.11.51

เรื่องเก่าเล่าใหม่

เชื่อไหมว่า โลกนี้ไม่มีอะไรใหม่!!
เคยได้ยินคำพูดที่บอกว่า ไม่มีอะไรใหม่ใต้ฟ้านี้ ทุกอย่างเคยเกิดขึ้นมาแล้ว
ทุกอย่างคือเรื่องเดิมๆ ที่เอามาเล่าใหม่

หนังสือเล่มหนึ่งพูดถึงความ creative ว่าเป็นการจับสิ่งที่มีอยู่แล้วมาผสมผสานกัน
เพื่อสร้างมุมมองใหม่ ของใหม่ ความคิดใหม่ หรืออะไรก็ตามที่มันใหม่ๆ
มันก็คือเรื่องเก่า เอามาเจอกับเรื่องเก่า แล้วก็เล่าใหม่
ถ้าเล่าแล้วดี เจ๋ง เกิดประโยชน์ แสดงว่า Creative สูง

มีบางอย่าง ที่ดูเหมือนเรื่องใหม่ แต่ว่าเป็นเรื่องใหม่ที่เล่าเก่า
ละครไทย
กระเป๋าหลุยส์ ติงต๊อง
ประท้วงรัฐบาลด้วยการยึดสุวรรณภูมิ (เกี่ยวไหม!!)
และอื่นๆ อีกมากมาย ที่ไม่ได้ถือว่าจับเรื่องเก่าเอามาเล่าอย่างสร้างสรรค์

ดูเหมือนว่าเราจะเป็นนัก creative
แต่ก็ถามตัวเองอยู่หลายครั้ง ว่าใช่หรือไม่
ไม่ได้มีความคิดหลุดโลก บ้าบอ คิดอะไรได้ใหม่ตลอดเวลา

หลังจากทำงานมาได้หลายช่วงเวลา
ก็รู้จักตัวเองว่า เป็นนักคิด ไม่ใช่นักทำ
มีอะไรอีกเยอะบนโลกให้ค้นหา และคิดแก้ปัญหา
ด้วยการ creative ไปกับมัน
บางสิ่งหายไป พังลง เพื่อให้เกิดบางสิ่งมาทดแทน
บางปัญหา เกิดมาเพื่อให้มีการสร้างสรรค์
ตามหลักพุทธก็จะบอกว่า ทุกอย่างมีเหตุปัจจัย

แต่หมี่เชื่อพระเจ้า
พระเจ้าบอกว่า ไม่มีอะไรบังเอิญบนโลกใบนี้
และพระเจ้าจะดูแลคนที่รักพระองค์ให้เกิดผลอันดีในทุกสิ่ง
แผนการของพระเจ้าเป็นแผนการเพื่อสวัสดิภาพ ไม่ใช่เพื่อทุกขภาพ

ทุกอย่างมีสิ่งดีซ่อนอยู่
ไม่มีปัญหาอะไรที่แก้ไม่ได้
ปัญหาจะแก้ได้เมื่อไม่ท้อใจ
คิด ใช้สติปัญญา และความสร้างสรรค์
ความสร้างสรรค์เกิดจากการมองแง่โลกดี และคิดแง่บวก
มองให้ถูกที่ ถูกทาง ก็จะเจอวิธีการเล่าเรื่องเก่าให้เป็นเรื่องใหม่ได้ไม่มีวันสิ้นสุด

รู้สึกขอบคุณพระเจ้า
เพราะพระเจ้าสอนให้เราขอบคุณพระเจ้าได้ในทุกสิ่ง

25.11.51

men are from Mars, women are from Venus

เคยสงสัยหลายครั้งเหมือนกัน ว่าทำไมตัวเองถึงไม่เหมือนผู้หญิงคนอื่น
ไม่ค่อยงี่เง่า แล้วก็ไม่ค่อยเข้าใจเพื่อนสาวที่งอแงกะอะไรเล็กๆน้อยๆ สักเท่าไหร่
ความเป็นตัวเองสูงมากกก แบบว่าไปห้องน้ำคนเดียวได้
ไม่ต้องการยุ่งกะใครเวลาที่เขามีความสุข
แต่ถ้าเพื่อนเดือดร้อนเป็นทุกข์ รับรองว่าไปแน่
นิสัยไม่ค่อยเหมือนเพื่อนผู้หญิงคนอื่น

มีเพื่อนผู้ชายก็เยอะ
เพื่อนผู้หญิงก็เยอะ
แต่ก่อน มีแฟนก็เยอะ
ใครๆ ก็รักไปหมด
ด้วยความไม่เรื่องมาก ไม่ซับซ้อนในการเข้าหาคนอื่น
(แต่รู้สึกว่ากับตัวเอง ทำไมซับซ้อนจัง)

ประมาณ 1 ปีที่ผ่านมา
เพิ่งค้นพบตัวเองว่า การที่สามารถเข้ากับคนได้ง่ายทุกเพศ วัย อาจจะเป็นเพราะสมดุลดี
เนื่องจากมีนิสัยการคิดและการใช้ชีวิตคล้ายผู้ชายซะหลายส่วน
พยายามปฏิเสธชาวบ้านมาตลอดว่าไม่ใช่ทอม (เหอเหอ -_-)
พี่นิยม พี่ชายที่น่ารักคนหนึ่งอธิบายให้ฟังว่า ผู้ชายกับผู้หญิงคิดต่างกันยังไง
มองคนละมุมนี่ คนละมุมยังไง ใครมองมุมไหน เพราะอะไร

เอ้อ ฟังแล้วเข้าใจแฮะ
แล้วเวลาฟังผู้ชายกับผู้หญิงคุยกันหรือเถียงกันก็จะมีขำๆ บ้างในบางที
เพราะว่าเข้าใจทั้งคู่ เลยรู้สึกว่าตลกดี
มองกันคนละเรื่องจริงๆ

อีฟ เพื่อนสาวสุดเลิฟ ผู้ดูแลงานโปรดักชั่นทุกอย่างในบริษัท
เป็นคนที่ใส่ใจในรายละเอียดทุกเนื้องานการผลิต
แต่ไม่มีหัวมาร์เก็ตติ้งอย่างรุนแรง
ยิ่งนั่งคุยงานกัน ยิ่งชัดเจน
เวลาประชุม Marketing กัน แล้วนึกถึงมุมของอีฟก็ขำดี
แบบว่าเข้าใจ

อาจจะไม่ใช่แค่ผู้ชายจากดาวอังคารกับผู้หญิงจากดาวศุกร์
แต่อาจจะมีคนจากพันๆ ดาวมาอยู่รวมกันบนโลกก็ได้
มันถึงได้สนุกสนานวุ่นวายไม่รู้จักจบสิ้นอย่างนี้ไงเล่า


เอ๊ พระเจ้าคะ แล้วหนูมาจากดาวไหนละเนี่ย
น่าจะเป็นดาวที่น่าอยู่มากๆ เลยนะ
(แต่ว่ายังหาทางกลับไม่เจอ)

22.11.51

ขอบกำแพง --------

เมื่อวานนี้ ตอนที่กำลังเดินข้ามสะพานลอย
เห็นนกตัวหนึ่ง
เดินอย่างสบายใจอยู่ที่ขอบสะพานลอยด้านนอก

อยู่ดีๆ เราก็หยุด แล้วก็ดู จนเหลียวหลังง
ในใจคิดว่า....
มันไม่กลัวจะหล่น หรือไม่มีอาการเสียวๆ หัวใจบ้างเลยหรือไง
ใช่สิ มีปีกนี่นา หล่นไปก็บินได้
ถ้าเป็นเรานี่คงไม่กล้า...
คิดเป็นตุเป็นตะ ตลกดี

นึกๆ แล้วเหมือนเวลาที่เราเดินไปบนทางแคบ
มีหุบเหวอยู่ข้างๆ ทั้งซ้ายและขวา
(เหมือนในหนัง)
ถ้าหากทำตัวเหมือนนก
ทำเสมือนว่ามีปีกอยู่ (แต่ไม่ยอมใช้ปีก พยายามไล่ให้บิน ก็ไม่บิน ใช้เท้าเดินไปจนสุดขอบเลย)
ก็คงจะเดินได้แบบสบายใจดี ไม่ค่อยหวั่นไหวหรือเสียวหัวใจเท่าไหร่

ที่จริงก็ไม่ต้องไปอิจฉานกหรอกเนอะ
เรามีปีกอยู่แล้ว
ไม่เชื่อไปอ่านใน อสย 40:31 ดูแล้วกันนะคะ

19.11.51

อืมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมมม

มนุษย์เป็นสิ่งมีชีวิตที่แปลกประหลาด
หลายครั้ง ทั้งที่เรารู้ว่าเราอยู่ได้ด้วยความจริง
แต่เรามักจะเดินไปด้วยความรู้สึก

ตอนนี้กำลังเลือกข้างความจริง
ซึ่งก็เลือกอย่างมั่นใจเต็มใจ
แต่ต้องพยายามไม่ให้ความรู้สึกมาก่อกวนใจในเวลาเดียวกัน

เมื่อวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา
สมาคมส่งตัวไปดูงาน Asian Sport Stacking Championships ที่สิงคโปร์

ทำใบโครงการเสร็จวันอังคารเย็น
วันพุธเช้า MD เซ็นอนุมัติ
วันพุธบ่ายหาที่พัก
และวันพุธเย็นจองตั๋วเดินทาง flight 11.15 พฤหัสบดี

ขอบคุณพระเจ้า
Air Asia ตั๋วเต็ม ต่อสู้แสวงหากันจนได้ Jetstar ตอนหกโมงเย็น
ในราคาเพียง 4,814 บาท (พี่นิกที่ช่วยจองตั๋วให้ บอกว่าไม่เคยจองได้ราคาถูกอย่างนี้เลย)
flight 9.15 วันพฤหัส

ติดต่อที่พักได้ตอนบ่าย 2
เป็นบ้านพี่น้องคริสเตียนที่สิงคโปร์ ซึ่งน้องชายไม่อยู่พอดี
ได้ห้องพักที่ดียิ่งกว่าโรงแรมซะอีก

ของกินที่สิงคโปร์เหมือนจะไม่อร่อย
แต่อร่อยทุกมื้อ และราคาไม่แพงเหมือนที่คาดไว้

ได้ถ้วยรางวัลและประสบการณ์ในการดูงานเรื่องการแข่งขัน
และได้ connection กลับมา 3 คน อย่างที่ตั้งใจ

ไป City Harvest ในครึ่งชั่วโมงสุดท้าย
แต่ก็ได้สัมผัสบรรยากาศของการเทศน์ การแบ่งปันพระพร
VTR สุดยอด creative
และได้สัมผัสบรรยากาศการนมัสการทั้งช้าและเร็ว อย่างครบถ้วน

ได้ดูหนังฟรี
ได้ขับรถชม Orchard Road
ได้เดิน Shopping mall ที่อลังการงานสร้างมากของ SG

ใช้เงินทั้งหมด รวมของฝาก ค่าเครื่องบิน และค่าเดินทางไป-กลับสุวรรณภูมิ
8,000 บาท

ชีวิตเป็นเรื่องดีเสมอ
การรู้สึกแบบนี้ อาจต่ออายุเราได้มากขึ้น
การดำเนินชีวิต ต้องมีความสุข
เพื่อในเวลาที่เราเจอกับความจริง
เราจะได้รู้ว่า โลกนี้ไม่ได้มีแต่เรื่องที่น่าหวาดระแวง

แม้อะไรจะเปลี่ยน ๆๆๆๆๆ ไปหมด
แต่ว่าพระเจ้าไม่เคยเปลี่ยน
พระพรและของขวัญของพระเจ้า ที่ชัดเจนอยู่ในใจและในชีวิตของเรา
จะไม่เปลี่ยนไปตามเวลา

ก็มันเกิดขึ้นแล้ว จะปฏิเสธว่าไม่จริงก็ไม่ได้อะนะ
มนุษย์เราจะอยู่รอด เมื่อเดินตามความจริง
ด้วยความรัก

ใช่ไหมคะพระเจ้า

13.11.51

Singapore

T_T
เสียใจ
พิมพ์ไปตั้งเยอะแยะ
กดผิดทีเดียวหายหมดเลย
แง้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

11.11.51

จงมีความสุข

เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
ไปโบสถ์ที่คลองเตย อย่างที่ไปสม่ำเสมอ
มีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย เพราะห้องประชุมใหญ่ไฟดับ
ก็เลยมานมัสการที่ชั้น 3 กัน
คนแน่นเชียว

ได้ดู Hope TV หลังจากที่ไม่ได้ดูมานาน
หลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ติดภารกิจหลายประการ เลยทำให้ไม่ได้อยู่ที่โบสถ์เช้าจดเย็นอย่างเคย
น้องผู้หญิงคนหนึ่ง เล่าเรื่องที่พระเจ้าเปลี่ยนแปลงชีวิต และอวยพรเรื่องการเรียนผ่าน Hope TV
เป็นการอวยพรในรูปแบบที่ไม่ได้ฟังมานาน
น้ำตาแอบซึม

ระหว่างที่โลกกำลังวุ่นวาย
มีอะไร อะไร อะไรมากมายเยอะแยะเต็มไปหมด (อีกแล้ว เยอะตลอดเวลา)
พระเจ้าก็ยังคงทรงพระชนม์อยู่
และอวยพรคนที่รักพระเจ้าในทุกหนแห่งบนโลกอย่างสัตย์ซื่อ

ไม่ว่าอะไรจะเข้ามาทำให้เราบ่นต่อว่าโลกนี้มากน้อยแค่ไหน
แต่ก็จะมีอีกหลายๆ มุมบนโลกใบนี้
ที่ยังมีเสียงขอบคุณพระเจ้าให้ได้ยินเสมอ

ถ้าหากว่าเรา บ่น
คนรอบข้างเราก็คงอยากบ่นไปด้วย
ถ้าหากว่าเรา เหนื่อย
คนที่เห็นเราเหนื่อย ก็คงจะพลอยหมดแรง
ถ้าหากว่าเรา ยิ้ม
คนรอบข้างอาจจะยิ้มไปกับเรา
ถ้าหากว่าเราขอบคุณพระเจ้า
คนรอบข้างก็จะรู้ว่าพระเจ้าอยู่กับเรา
และถ้าหากว่าเรา มีความสุข
คนข้างๆ และคนรอบข้าง ก็อาจจะมีความสุขไปกับเรา

น้ำตาสามารถไหลออกมาได้ง่ายๆ ในบางช่วงของชีวิต
แต่รอยยิ้มและเสียงหัวเราะมาได้ง่ายกว่า

เพราะมนุษย์ถูกสร้างมาเพื่อให้มีความสุข
จงมีความสุข

พรุ่งนี้จะตื่นไหวไหมคะเนี่ย
พระเจ้าปลุกหมี่ด้วยนะคะ
Good Night
หลับไปเลยคืนนี้...
ด้วยรอยยิ้ม

2.11.51

They are Thai Stackers!!

ถ้าวันนี้ไม่ได้มาเขียนบล๊อก คงจะนอนไม่หลับแน่ๆ
เพิ่งสิ้นสุดการแข่งขันกีฬาสแต็คครั้งแรกในประเทศไทย จัดโดยสมาคมกีฬาสแต็ค
เป็นเหมือนการรวมตัวคนเล่นกีฬาสแต็คกลุ่มแรกของประเทศ

เพิ่งรู้วันนี้นี่แหละ ว่าการแข่งขันกีฬา มันน่าตื่นเต้นยังไง
เป็นกรรมการผู้ตัดสินวันนี้... เหนื่อยมาก ทั้งที่นั่งตัดสินด้วยซ้ำ
หมดพลังไปกับการลุ้นน้องๆ
น้องแต่ละคน ก็ลุ้นของตัวเองคนเดียว
แต่กรรมการนี่สิ ลุ้นมันไปซะทุกแมช
น้องบางคนก็สอนมากับมือ น้องบางคนก็มาเล่นกีฬาที่ Club จนสนิท
น้องคนไหนพลาดยังไง เล่นเร็วช้าแค่ไหน
ก็ลุ้นหัวใจจะวายไปกับทุกๆ คน

ผลรางวัลในวันนี้ค่อนข้างกระจาย มีน้องได้รางวัลที่หนึ่งหลายคน
ไม่ใช่คนเดียวได้รวดทุกรางวัลอย่างที่เก็งกันไว้
แล้วก็มีน้องๆ มือใหม่ที่เป็นม้ามืด คว้ารางวัลงามๆ ไปหลายรางวัล
หลายคนที่ซ้อมมาอย่างดี แต่ถึงเวลาแข่งกลับทำพลาดด้วยความตื่นเต้น
หลายคนเล่นเร็วมาก แต่ทำแก้วสแต็คหล่น
ร้องไห้เสียใจกันไปเป็นแถบ
กรรมการเห็นน้องร้องไห้ ก็ปวดใจ T_T

น้องที่ไปแข่งมีตั้งแต่เด็กอายุ 9 ขวบ จนถึง 18 ปี
เจอกันไม่ถึง 2 วัน ก็เป็นเพื่อนกัน เล่นด้วยกันได้สนุกสนาน
เวลาแข่ง ถ้าทำคะแนนได้ดี ก็จะมีเสียงปรบมือดังๆ ส่งมาให้จากผู้ชม
และแม้ทำคะแนนได้ไม่ดี ก็จะมีเสียงปรบมือให้กำลังใจตลอด
ตอนที่มอบเหรียญ และตอนที่ท่านผู้แทนปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา มอบถ้วยรางวัลให้ผู้ชนะเลิศ
แม้จะเป็นห้องเล็กๆ แต่ว่าเสียงปรบมือดังเชียว

เป็นความอบอุ่นที่เกิดขึ้นในการแข่งขันวันนี้
ดีใจที่ทุกอย่างเป็นไปอย่างราบรื่น
มีความสุขที่ได้เห็นน้องๆ หลายคนได้รางวัลอย่างที่คาดหวังตั้งใจ
แล้วก็เสียใจไปกับน้องๆ ที่เล่นเก่ง แต่ไม่มีโอกาสได้รางวัล ไม่ว่าด้วยเหตุใดก็ตาม
ใจหายทุกครั้งที่เห็นน้องๆ ทำพลาดในการแข่งขัน
มีน้องที่ผ่านเข้ารอบสุดท้ายที่เราติดต่อน้องไม่ได้ ทำให้น้องไม่ได้มาแข่ง ทั้งที่ตั้งใจมาก
เสียใจและรู้สึกผิดอย่างแก้ไม่หาย
ชีวิตนี่มันมีหลายความรู้สึกจริงๆ
(รวมไปถึงความรู้สึกเหนื่อยกาย เหนื่อยใจในบางที)

ขอบคุณพระเจ้าอีกครั้งนะคะ
แบบว่าขอบคุณอย่างสุดใจเลยที่ได้ทำงานนี้
ทำงานกับเด็กๆ ชีวิตมันก็สดชื่นใปอีกแบบนะ
อิอิ

แล้วคนอื่นจะได้รู้จักน้องๆ Thai Stacker รุ่น 1 มากขึ้นแน่นอนค่ะ