10.6.55

บันทึกการเดินทาง ครั้งที่ 5



"สงครามโลกครั้งที่ 2
แม้ว่าดูเหมือนโหดร้าย
แต่สำหรับคนไทยอย่างพวกฉัน 
สงครามคราวนี้
เป็นความรัก ความผูกพัน
ระหว่างทหารญี่ปุ่นกับคนไทย
ที่ฉันไม่เคยลืมเลือน"

วิชาสังคมสอนประวัติศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับสงครามโลกไว้แบบไหน จำไม่ได้
แต่จำได้ว่าไม่มีเรื่องแบบนี้ ไม่มีอะไรที่เกี่ยวข้องกับความรู้สึกรัก ผูกพัน ที่ถ่ายทอดออกมาแบบนี้
ถ้อยคำนี้เป็นถ้อยคำของหญิงคนหนึ่งในอำเภอขุนยวม แม่ฮ่องสอน
เธอรักกับทหารญี่ปุ่นที่เข้ามาอยู่ในไทย ช่วงสงครามโลก 

การเดินทางจากเชียงใหม่เข้าแม่ฮ่องสอนทางใต้ทะลุขึ้นมาเหนือ และวกกลับอีกครั้งเป็นวงกลม
ทำให้เราได้ผ่านเกือบทุกอำเภอของแม่ฮ่องสอน
แล้วก็ได้รู้เรื่องอะไรแบบนี้ ที่ไม่เคยเรียน (หรือเรียนแล้วจำไม่ได้) ในวิชาสังคม

พี่ชายคนอำเภอขุนยวมเล่าว่า คนแม่ฮ่องสอน เป็นคนไต หรือที่เราเคยเรียนว่าไทยใหญ่
แล้วก็มีไทยน้อย ลงไปอยู่ภาคกลาง เกิดการรวมชาติ เรียกตัวเองว่าไทย เพราะไม่อยากจะมีที่มาจากไต   
เป็นประวัติศาสตร์จากคนเมือง ฟังสนุกกว่าครูเล่าเยอะเลย

ยังไม่นับเรื่องราวของวัดอีกนับร้อย สถานที่ท่องเที่ยวแปลกตาอีกหลายสิบ
ถ้ำแก้วโกมล ที่มีแค่ 3 ที่ในโลกก็อยู่ที่นี่ 
28 ปีที่ผ่านมา มัวแต่ไปเที่ยวไหนบ้างนะ

นอกจากคนญี่ปุ่น
แม่ฮ่องสอนมีหมู่บ้านรักไทย ตั้งอยู่เขตแดนเหนือสุดของประเทศ ติดกับพม่า
เป็นหมู่บ้านคนจีนยูนาน อยู่บ้านดิน กินอาหารยูนาน ชอบจิบชา   
ที่อำเภอแม่สะเรียงก็มีคนอินเดียมาตั้งรกรากด้วย แต่ก่อนใช้เงินรูปีกันอะไรแบบนี้
ยังไม่นับชนเผ่าอีกนับสิบเผ่า 

เป็นเรื่องราวที่มากมาย หลากหลาย และสนุกสนาน 

ทริปนี้ทำให้มีเป้าหมายอะไรบางอย่างอีกแล้ว
ไม่ใช่เป้าหมายอะไรใหญ่โต
เพียงแต่คิดว่า ทุกปี เราน่าจะมีเวลาทำอะไรอย่างนี้สักปีละครั้ง ครั้งละสัก 10 วัน หรือหนึ่งอาทิตย์ก็ยังดี
ท่องเที่ยวตามเส้นทางเป็นวงกลม (ในฤดูไม่ท่องเที่ยว) อาจจะเริ่มในจังหวัดหนึ่งและจบอีกที่หนึ่ง
สักปีละหนึ่งเส้นทาง น่าจะกำลังดี

โลกกว้าง ควรจะรู้จักมันในมุมแคบๆ มุมอื่นๆ ซะบ้าง

ไม่มีความคิดเห็น: